จีนเริ่มตรวจสอบสมาร์ทโฟนพลเมือง ชาวต่างชาติหวั่นโดนด้วย

พลเมืองจีน
ประชาชนเดินผ่านนายำรวจบริเวณรอบนอกกำแพงของจตุรัสเทียนอันเหมินในวันที่ 4 มิถุนายน 2024 (Adek BERRY / AFP)

จีนเริ่มใช้กฎหมายจารกรรมตรวจสอบสมาร์ทโฟนพลเมือง ชาวต่างชาติบางส่วนกังวลว่าเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ของตนเองจะถูกตรวจสอบด้วย เมื่อเดินทางไปเยือนแผ่นดินจีน

นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า ที่ปักกิ่ง ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติจีนจะมีอำนาจในการตรวจสอบสมาร์ทโฟนและเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ได้ หลังจากที่กฎหมายต่อต้านจารกรรมมีผลบังคับใช้ครบหนึ่งปี เพิ่มความหวาดกลัวในหมู่ชาวต่างชาติว่าจะเจอการตรวจค้นเช่นเดียวกันนี้ขณะเข้าพำนักภายในประเทศจีน

กฎหมายจารกรรมใหม่นี้ได้ขยายขอบเขตนิยามที่เกี่ยวข้องกับ “ผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติ” ให้กว้างขึ้น ซึ่งเอื้อให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงมีอำนาจตรวจสอบสัมภาระและเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที โดยอ้างเพียงแค่ว่าวัตถุนั้นถูกต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับการจารกรรม

โดยเจ้าหน้าที่แค่ต้องแสดงบัตรประจำตัว หรือใช้วิธีระบุตัวอื่น ๆ ก็สามารถตรวจสอบโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้แล้ว

จากความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้เกิดความหวาดกลัวแพร่กระจายไปทั่วสื่อสังคมออนไลน์ ว่าชาวต่างชาติและคนอื่น ๆ จะตกเป็นผู้ต้องสงสัยเมื่อเดินทางเข้าประเทศจีน อย่างไรก็ตาม สื่อจีนรายงานว่ากระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน รวมทั้งหน่วยข่าวกรองได้ออกมาปฏิเสธว่าชาวต่างชาติจะไม่ถูกตรวจสอบใด ๆ ทั้งสิ้น

Advertisment

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จีนได้จับกุมตัวชาวญี่ปุ่นอย่างน้อย 17 คนตั้งแต่ที่กฎหมายจารกรรมมีผลบังคับใช้ในปี 2014 และในจำนวนนี้มี 5 คนที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว หนึ่งในนั้นคือผู้บริหารของบริษัทเวชภัณฑ์ แอสเตลลาส ฟาร์มา (Astellas Pharma) ซึ่งถูกกักคุมตัวตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 และถูกจับกุมในเดือนตุลาคม 2023 ความเคลื่อนไหวล่าสุดในเดือนมีนาคม 2024 ทางญี่ปุ่นได้รับแจ้งว่าคดีกำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณา 

จีนกำลังดำเนินการผลักดันระดมคนทั้งประเทศเพื่อเปิดโปงสายลับ สื่อในเครือพรรคคอมมิวนิสต์จีนรายงานว่าเมืองเซี่ยงไฮ้และฉงชิ่ง ตลอดจนมณฑลยูนนานและอันฮุย ต่างจัดการประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติขึ้นในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งถูกจัดขึ้นโดยผู้นำพรรคท้องถิ่นในแต่ละแห่ง

ทั้งนี้ กฎหมายจารกรรมที่เข้มงวดยิ่งขึ้นนี้เรียกร้องให้ประชาชนรายงานถึงการสอดแนมใด ๆ ก็ตามที่พวกเขาค้นพบ โดยมีรางวัลและผลตอบแทนให้กับประชาชนที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่อต้านการสอดแนม และมีเงินขั้นต่ำอยู่ที่ 100,000 หยวน (ราว 500,000 บาท) 

ในเดือนมิถุนายน กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ ชี้ว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา มีการรายงานผ่านทางบัญชีโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการถึงสองครั้ง และมีผู้เรียนสายผ่านทางโทรศัพท์ 44 รายได้รับรางวัลมูลค่าตั้งแต่ 30,000 ถึง 100,000 หยวน ( ราว 150,000 ถึง 500,000 บาท) พร้อมด้วย 125 รายที่ได้รับรางวัลมูลค่าตั้งแต่ 10,000 ถึง 30,000 หยวน (ราว 50,000 ถึง 150,000 บาท)

Advertisment

ฮัน จุน (Han Jun) ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมณฑลอันฮุยอยู่ในขณะนั้น เรียกร้องให้มี “การเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่” สำหรับปราบปรามจารกรรม ผู้เข้าร่วมประชุมในฉงชิ่งล้วนตกลงที่จะ “ทำทุกอย่างตามอำนาจที่มีอยู่ เพื่อความมั่นคงทางการเมือง และป้องกันการแทรกซึมของกองกำลังที่ไม่เป็นมิตร”

นอกจากนี้ จีนยังสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความพยายามต่อต้านการจารกรรมขึ้นในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาอีกด้วย เมื่อเดือนมิถุนายน กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังโรงเรียนต่าง ๆ ในกรุงปักกิ่ง ไล่ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาไปจนถึงมหาวิทยาลัย เพื่อบรรยายเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติแก่นักศึกษาและคนอื่น ๆ อีกทั้งยังมีการพูดคุยถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากเทคโนโลยีขั้นสูงรวมถึงปัญญาประดิษฐ์ด้วย