เลือกตั้งฝรั่งเศส : จะเกิดอะไรต่อไป เมื่อพรรครัฐบาลเป็นคนละฝั่งกับประธานาธิบดี

มาครง เลือกตั้งฝรั่งเศส
มาครงทักทายผู้สนับสนุนระหว่างเดินทางไปลงคะแนนเลือกตั้งรอบแรก วันที่ 30 มิถุนายน 2024 (ภาพโดย Yara Nardi / POOL / AFP)

ฝรั่งเศสเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภารอบแรกในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2024 และจะเลือกตั้งรอบสองในวันที่ 7 กรกฎาคม 2024 

การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนดการเดิมหลายปี ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เอ็มมานูเอล มาครง (Emmenuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศสประกาศยุบสภาหลังทราบผลการเลือกตั้งสมาชิกสภายุโรปเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาว่าพรรคพรรคเรอเนซองส์ (Renaissance : RE) ของเขาพ่ายแพ้ต่อพรรคเนชั่นแนลแรลลี (National Rally : RN) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาจัดของมารีน เลอแปน (Marine Le Pen)

การเลือกตั้งฝรั่งเศสครั้งนี้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง 49 ล้านคน หลังปิดหีบเลือกตั้งมีรายงานว่า จากการประมาณการของบริษัทสำรวจความคิดเห็น 4 แห่ง ประมาณการว่าอัตราผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งอยู่ที่ 69.2% ซึ่งสูงกว่าการเลือกตั้งในปี 1993 เล็กน้อย และเป็นจำนวนสูงสุดในรอบ 47 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งปี 1986 ซึ่งอัตราผู้ใช้สิทธิอยู่ที่ 78.5%

ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พรรคฝ่ายขวาจัดได้คะแนนราว 33-34% พันธมิตรฝ่ายซ้ายตามมาเป็นอันดับ 2 ได้ไป 28.5-29.6% และพันธมิตรสายกลางของมาครงได้ไปราว 21.5-22.4%

เอ็มมานูเอล มาครง ลงคะแนนเลือกตั้งวันที่ 30 มิถุนายน 2024
เอ็มมานูเอล มาครง ลงคะแนนเลือกตั้งวันที่ 30 มิถุนายน 2024 (ภาพโดย Yara Nardi / POOL / AFP)

ระบบการเลือกตั้งของฝรั่งเศสมีการแบ่งเขตเลือกตั้ง 577 เขต แต่ละเขตมีตัวแทนนั่งในสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่างของรัฐสภาเขตละ 1 ที่นั่ง พรรคที่จะเป็นเสียงข้างมากโดยสมบูรณ์จะต้องมีที่นั่งอย่างน้อย 289 ที่นั่ง 

Advertisment

ผู้สมัครคนใดที่ได้คะแนน “เสียงข้างมาก” ในแต่ละเขตเลือกตั้งจะเป็นผู้ชนะเลือกตั้งตั้งแต่รอบแรก แต่โดยส่วนใหญ่จะไม่มีผู้สมัครที่ชนะตั้งแต่รอบแรก แล้วจะต้องเข้าสู่การเลือกตั้งรอบสอง โดยกำหนดว่าผู้ที่จะเข้ารอบสองจะต้องได้รับคะแนนในรอบแรกอย่างน้อย 12.5% ของจำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งในเขตนั้น ๆ แล้วผู้ที่มีคะแนนสูงสุดในรอบสองจะเป็นผู้ชนะประจำเขต ได้เข้าไปนั่งในสภา  

การเลือกตั้งครั้งนี้ฝ่ายขวาจัดชนะเลือกตั้ง สหภาพฝ่ายซ้ายเป็นอันดับสอง และพันธมิตรสายกลางของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ได้คะแนนตามมาเป็นอันดับสาม 

จอร์แดน บาร์เดลลา (Jordan Bardella) หัวหน้าพรรค National Rally (RN) วัย 28 ปีจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พ่วงสถิตินายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส ทำลายสถิติของ กาเบรียล อัตตาล (Gabriel Attal) นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันซึ่งทำสถิตินายกฯอายุน้อยสุดในวัย 34 ปี 

จอร์แดน บาร์เดลลา
จอร์แดน บาร์เดลลา หัวหน้าพรรค RN ลงคะแนนเลือกตั้ง วันที่ 30 มิถุนายน 2024 (ภาพโดย JULIEN DE ROSA / AFP)

แต่มีความเป็นไปได้ที่ RN จะชนะโดยที่ได้ไม่ถึง 289 ที่นั่ง แต่จอร์แดน บาร์เดลลา กล่าวว่าเขาต้องการเสียงข้างมากโดยสมบูรณ์ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถดำเนินการปฏิรูปได้ 

Advertisment

ทั้งนี้ ในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสเคยมีช่วงเวลาที่เรียกว่า “การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ” (Cohabitation) ซึ่งหมายถึงกรณีที่ประธานาธิบดีไม่ได้มาจากพรรคที่ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาอยู่ 3 ช่วง โดยช่วงเวลาดังกล่าวเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายในช่วงปี 1997-2002 ที่ประธานาธิบดี ฌากส์ ชีรัก (Jacques Chirac) มีเสียง สส.น้อยกว่า และมีอำนาจรองจากนายกรัฐมนตรี ลียอแนล ฌ็อสแป็ง (Lionel Jospin) 

ในกรณีแบบนี้นายกรัฐมนตรีของพรรคเสียงข้างมากจะกลายเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดในประเทศ ส่วนประธานาธิบดีจะมีอำนาจตัดสินใจด้านกลาโหมและการต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การแบ่งอำนาจด้านนโยบายต่างประเทศยังไม่ชัดเจน และอาจเป็นปัญหาสำหรับจุดยืนของฝรั่งเศสต่อสงครามในยูเครน หรือนโยบายของสหภาพยุโรป

มารีน เลอแปน
มารีน เลอแปน ผู้นำพรรค RN ลงคะแนนเลือกตั้ง วันที่ 30 มิถุนายน 2024 (ภาพโดย Francois LO PRESTI / AFP)

มาครงจะต้องรับมือกับรัฐสภาชุดใหม่เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี หลังจากนั้นเขาจึงจะสามารถประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ได้ 

มาครงได้รับมอบอำนาจให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 เมื่อเดือนเมษายน 2022 และเขาจะเป็นประธานาธิบดีต่อไปอีก 3 ปี ก่อนจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2027 ซึ่งระหว่างนั้น ทั้งรัฐสภาและรัฐบาลไม่สามารถบังคับเขาออกไปจากตำแหน่งได้ 

ก่อนหน้านี้ ทีนีโอ (Teneo) บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจและการสื่อสารมองว่ามาครงยุบสภาและเรียกร้องการเลือกตั้งที่พรรคของเขาอาจจะแพ้ เพราะเป้าหมายสูงสุดของเขาอาจเป็นการเลื่อนชัยชนะของพรรค RN ให้มาถึงเร็วขึ้น เพื่อเผยให้ประชาชนเห็นว่าพรรค RN ขาดประสบการณ์ในการเป็นรัฐบาล และทำให้ RN ต้องพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2027

อ้างอิง :