เปิดตัวเลข คนเมียนมาซื้อคอนโดฯในไทยมากขนาดไหน นับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร

กรุงเทพ
กรุงเทพมหานคร (ภาพโดย Amaury PAUL / AFP)

หลังเกิดรัฐประหารเมียนมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ชาวเมียนมาผู้มีฐานะการเงินดีได้ขนเงินออกมาซื้ออสังหาฯในไทยกันเป็นจำนวนมากอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนั่นทำให้รัฐบาลทหารเมียนมาปราบปรามการซื้ออสังฯหาของชาวเมียนมาในไทย เป็นการป้องกันเงินตราไหลออกนอกประเทศ เพื่อป้องกันการล่มสลายทางการเงิน 

ชาวเมียนมานำเงินออกมาซื้ออสังหาฯในไทยมากขนาดไหนในช่วงเวลา 3 ปีกว่าที่ผ่านมา “ประชาชาติธุรกิจ” ชวนอัพเดตตัวเลขจากรายงานสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ไตรมาส 1 ปี 2024 ซึ่งจัดทำโดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) 

รายงานดังกล่าวระบุว่า ในไตรมาส 1 ของปีนี้ ชาวต่างชาติสัญชาติเมียนมาเป็นสัญชาติที่ซื้อห้องชุดในประเทศไทยมากเป็นลำดับ 2 รองจากชาวจีน ทั้งในแง่จำนวนหน่วยและมูลค่า โดยมีสัดส่วนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์คิดเป็น 10.0% ของหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติทั้งหมด และมีสัดส่วนมูลค่าคิดเป็น 12.3% ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติทั้งหมด  

จากการเก็บข้อมูลมาอย่างต่อเนื่องหลายปี REIC พบประเด็นที่น่าสนใจว่า ชาวเมียนมามีการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน ดังนี้ 

-ในปี 2021 (ปีที่เกิดรัฐประหาร) มีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ 30 หน่วย (ลำดับที่ 25)

Advertisment

-ในปี 2022 มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 349 หน่วย (ลำดับที่ 6) เพิ่มขึ้น 1,063.3% เมื่อเทียบกับปี 2021  

-ในปี 2023 มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 564 หน่วย (ลำดับที่ 4) เพิ่มขึ้น 61.6% เมื่อเทียบกับปี 2022 

-ในไตรมาส 1 ปี 2024 มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ 392 หน่วย (ลำดับที่ 2) เพิ่มขึ้น 415.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2023 

ส่วนในแง่มูลค่า ในไตรมาส 1 ปี 2024 เพียงไตรมาสเดียวมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวเมียนมาสูงถึง 2,207 ล้านบาท (คิดเป็น 12.3% ของทั้งหมด) เพิ่มขึ้น 344.1% จากไตรมาส 1 ปี 2023 ที่มีจำนวน 76 หน่วย มูลค่า 497 ล้านบาท 

Advertisment

ทั้งนี้ จังหวัดที่มีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชลบุรี กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และสมุทรปราการ ตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือชลบุรีมีจำนวน 1,521 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 38.6% ของทั้งหมด และกรุงเทพฯ จำนวน 1,498 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 38.0% ของทั้งหมด โดยทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันสูงถึง 76.6% ของทั่วประเทศ

ส่วนจังหวัดที่มีจำนวนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ และสมุทรปราการ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือกรุงเทพฯ มีมูลค่า 10,699 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 59.4% ของทั้งหมด และชลบุรีมีมูลค่า 4,165 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 23.1% ตามลำดับ โดยทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนมูลค่ารวมกันสูงถึง 82.5% ของทั่วประเทศ