รัฐบาลทหารจับชาวเมียนมาผู้ซื้อ-ขายคอนโดฯในไทย ปราบปรามการนำเงินออกนอกประเทศ

เงินจ๊าด เมียนมา
เงินจ๊าดเมียนมา (ภาพโดย AFP)

รัฐบาลทหารจับชาวเมียนมาผู้ซื้อ-ผู้ขายคอนโดฯในไทย ปราบปรามการนำเงินออกนอกประเทศ และจับกุมผู้ค้าในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา-ตลาดทองคำ ข้อหาทำให้อัตราแลกเปลี่ยนและราคาทองคำไม่มีเสถียรภาพ 

สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2024 ว่า รัฐบาลทหารเมียนมากำลังปราบปรามผู้ค้าในตลาดทองคำและตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ โดยมีการจับกุมชาวเมียนมา 35 รายในช่วงวันที่ 3-4 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะรักษาเสถียรภาพค่าเงินที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว

รอยเตอร์อ้างอิงการรายงานของหนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลต์ออฟเมียนมา (Global New Light of Myanmar) สื่อที่รัฐบาลเมียนมาเป็นเจ้าของ ซึ่งระบุในข่าวว่า บุคคลที่ถูกจับกุมประกอบด้วยบุคคล 5 รายที่ถูกตั้งข้อหาขายห้องชุดในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย 14 รายถูกจับกุมในข้อหาทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราไม่มีเสถียรภาพ และ 21 รายถูกจับกุมในข้อหาทำให้ราคาทองคำไม่มีเสถียรภาพ  

ค่าเงินจ๊าตของเมียนมาร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดมืดร่วงลงสู่ประมาณ 4,500 จ๊าตต่อดอลลาร์ ตามการระบุของผู้ค้าเงินตราต่างประเทศ 5 ราย 

ทั้งนี้ เป็นเวลาหลายปีแล้วที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินจ๊าตในตลาดมืดให้อัตราสูงกว่าอัตราอ้างอิงของธนาคารกลางเมียนมา ซึ่งปัจจุบันกำหนดไว้ที่ 2,100 จ๊าตต่อ 1 ดอลลาร์  

Advertisment

ในส่วนผู้ต้องหาในข้อหาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยนั้น มีข้อมูลเพิ่มเติมจากการรายงานของสำนักข่าวอิระวดี (Irrawaddy News) ของเมียนมาว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 4 ราย และกำลังติดตามอีก 1 ราย จากทั้งหมด 5 รายที่ถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการซื้อขายคอนโดฯไทยอย่างผิดกฎหมาย 

ในรายงานข่าวระบุว่า ผู้ต้องหา 2 คน เป็นผู้บริหารบริษัทนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ชื่อบริษัท มินตู (Min Thu Co.) ซึ่งจัดงานมหกรรมซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในย่างกุ้ง 2 ครั้งโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทั้งสองคนได้โอนเงินค่าคอนโดฯจากผู้ซื้อในเมียนมามายังประเทศไทยผ่านช่องทางที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ 1 ใน 2 คนนี้ถูกจับกุมแล้ว ขณะที่อีก 1 คนหลบหนีการจับกุม 

ส่วนอีก 3 รายถูกจับกุมเนื่องจากเป็นผู้ซื้อคอนโดฯในประเทศไทยจากบริษัทดังกล่าว และพวกเขาเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางเมียนมา แล้วมีการโอนเงินค่าคอนโดฯผ่านบัญชีดังกล่าว 

ชาวเมียนมาทั้ง 5 คนนี้ยังถูกต้องข้อหา ว่าสร้างความไม่มีเสถียรภาพในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราเมียนมา ผ่านการทำข้อตกลงซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยด้วย 

Advertisment

รายงานข่าวของอิระวดีอธิบายว่า ปฏิบัติการปราบปรามการซื้อคอนโดฯในประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างยิ่งยวดของรัฐบาลทหารเมียนมาที่จะป้องกันไม่ให้เงินตราไหลออกนอกประเทศ เพื่อป้องกันการล่มสลายทางการเงิน นอกจากนี้ การจับกุมยังเกิดขึ้นตามมาหลังจากที่ค่าเงินจ๊าตสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และราคาทองคำในเมียนมาพุ่งขึ้นสู่จุดสูงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยค่าเงินจ๊าตแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5,020 จ๊าตต่อดอลลาร์ ในวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม ขณะที่ราคาทองคำ 24 กะรัตแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 5.8 ล้านจ๊าตต่อดอลลาร์ 

แม้ว่าวิกฤตการณ์ทั้งสองถือเป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการจัดการทางเศรษฐกิจและการเงินที่ผิดพลาดของรัฐบาลทหาร แต่รัฐบาลทหารกลับกล่าวโทษนักเก็งกำไรว่าเป็นต้นเหตุของความเสียหายดังกล่าว และได้จับกุมผู้ค้าทองคำแล้ว 

ทั้งนี้ การจับกุมพลเมืองเมียนมาที่เกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทย เกิดขึ้นภายหลังจากที่ตัวเลขการซื้อคอนโดฯในประเทศไทยโดยชาวเมียนมาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ชาวเมียนมาถือเป็นชาวต่างชาติกลุ่มที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในตลาดคอนโดมิเนียมของประเทศไทย 

ตามข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ชาวเมียนมาก้าวขึ้นมาติด 1 ใน 10 อันดับชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียมมากที่สุดในไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2022 ซึ่งเป็น 1 ปีถัดจากการรัฐประหารในเมียนมา