ตัวเลขการค้าเวียดนาม บ่งชี้ว่าขั้วสหรัฐลดพึ่งพาจีนได้จริงไหม

เวียดนาม การค้า
ท่าเรือขนส่งสินค้าในจังหวัดบินห์ดินห์ ประเทศเวียดนาม บันทึกภาพเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2024 (ภาพโดย Tran Thi Minh Ha / AFP)

ใน 5 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามเกินดุลการค้า 8,010 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 294,800 ล้านบาท) จากมูลค่าการค้ารวม 305,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 11,225,070 ล้านบาท) ซึ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 156,770 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,769,680 ล้านบาท) และมูลค่าการนำเข้า 148,760 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,474,890 ล้านบาท)

รายได้ส่งออกของเวียดนามมาจากการส่งออกสินค้าสำคัญ 7 รายการ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ อะไหล่ โทรศัพท์ เสื้อผ้า-สิ่งทอ รองเท้า และไม้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้สูงเกิน 5,000 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 183,000 ล้านบาท) คิดเป็น 65.3% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด

ตลาดอันดับ 1 ที่เวียดนามส่งออกและได้ดุลการค้ามากที่สุดคือ สหรัฐ โดยเวียดนามทำเงินจากการส่งออกไปสหรัฐ 44,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,619,350 ล้านบาท) และได้ดุลการค้าสหรัฐ 38,100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,402,210 ล้านบาท)

นอกจากนั้น เวียดนามได้ดุลการค้าสหภาพยุโรป หรืออียู 14,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 527,810 ล้านบาท) ได้ดุลการค้าญี่ปุ่น 290 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10,700 ล้านบาท)

ส่วนแหล่งนำเข้าหลักที่เวียดนามนำเข้าและเสียดุลการค้ามากที่สุดคือ จีน ซึ่งเวียดนามนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นมูลค่า 54,900 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,020,510 ล้านบาท) และขาดดุลการค้าจีน 32,300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,192,190 ล้านบาท)

Advertisment

นอกจากนั้น เวียดนามขาดดุลการค้าเกาหลีใต้ 11,100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 409,700 ล้านบาท) และขาดดุลประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนรวมกัน 4,200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 15,5020 ล้านบาท)

ตัวเลขการค้าของเวียดนามสะท้อนอะไรมากกว่าการค้าของเวียดนาม เพราะมันสะท้อนให้เห็น “เส้นทางการค้าโลก” ในโลกที่กำลังแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ (Decoupling) และตอบคำถามว่า จริง ๆ แล้วที่สหรัฐพยายามดึงห่วงโซ่อุปทานของบริษัทสหรัฐและพันธมิตรออกห่างจากจีนนั้น ทำสำเร็จมากน้อยเพียงใด ซึ่งตัวเลขการค้าของเวียดนามบ่งชี้ว่า จีนยังมีส่วนร่วมอยู่มากในห่วงโซ่การผลิตสินค้าที่เวียดนามส่งออกไปยังสหรัฐ และชาติพันธมิตรของสหรัฐ ทั้งยุโรปและญี่ปุ่น 

อย่างที่มีข่าวออกมาว่า ช่วงสองสามปีมานี้ บริษัทต่างชาติในจีน โดยเฉพาะบริษัทจากสหรัฐ โดนบีบหนักให้ย้ายฐานการผลิตสินค้าส่วนที่ไม่ได้ขายในประเทศจีนออกจากจีน และ “เวียดนาม” ได้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของบริษัทที่ย้ายการผลิตบางส่วนออกจากจีน ด้วยเหตุผลสำคัญว่า เวียดนามอยู่ใกล้กับจีนและมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดกับห่วงโซ่การผลิตในจีน

แต่ต้องยอมรับว่าการย้ายฐานการผลิตนั้นทำได้ยากและมีต้นทุนสูง เพราะห่วงโซ่การผลิตของสิ้นค้าแต่ละอย่างจากต้นจนถึงปลายนั้นมีความซับซ้อนและมีส่วนประกอบจำนวนมาก

Advertisment

แม้ว่าบริษัทต่าง ๆ ย้ายส่วนการประกอบและผลิตบางส่วนออกจากจีนแล้ว แต่วัตถุดิบและชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิตสินค้าส่วนมากยังคงอยู่ในจีน ดังนั้น จึงเป็นความท้าทายของสหรัฐในความพยายามแบ่งขั้วเศรษฐกิจของสหรัฐกับจีน

ตัวเลขการค้าของเวียดนามซึ่งขาดดุลจีน 32,300 ล้านดอลลาร์ และได้ดุลสหรัฐ 38,100 ล้านดอลลาร์ สะท้อนภาพชัดว่า เวียดนามนำเข้าชิ้นส่วน วัตถุดิบ และอุปกรณ์ต่าง ๆ จากจีน เพื่อผลิตสินค้าส่งออก

เมื่อไปดูรายการสินค้าอันดับต้น ๆ ที่เวียดนามนำเข้าจากจีนและส่งออกไปยังสหรัฐ พบว่า สินค้าที่เวียดนามนำเข้าจากจีนมากอันดับแรก ๆ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือและอะไหล่สำรอง วัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอ-เครื่องนุ่งห่ม-รองเท้า โทรศัพท์และชิ้นส่วน เหล็กและเหล็กกล้า

ส่วนสินค้าที่เวียดนามส่งออกไปยังสหรัฐมากอันดับต้น ๆ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ไม้ และรองเท้า

รายการสินค้าที่ทับซ้อนกันเกือบทั้งหมดนี้สนับสนุนมุมมองที่ว่า เวียดนามนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อผลิต-ประกอบขั้นสุดท้ายแล้วส่งออกไปยังสหรัฐและยุโรป ซึ่งบ่งชี้ว่า สหรัฐและพันธมิตรคงต้องใช้เวลาและความพยายามอีกมากในการลดการพึ่งพาจีน