วิจัยใหม่คาด ปี 2024 อากาศร้อนทุบสถิติโลก อันดามัน-ทะเลจีนใต้เดือด

เอลนีโญ
เอลนีโญ

งานวิจัยชิ้นใหม่ในวารสาร Scientific Reports ระบุมีโอกาส 90% ที่ปี 2024 นี้ โลกจะมีอุณหภูมิสูงสุดทุบสถิติเดิม และบางส่วนของเอเชียจะร้อนระอุเป็นพิเศษ พร้อมเกิดปะการังฟอกขาว ภัยแล้ง และไฟป่าในหลายพื้นที่

วันที่ 1 มีนาคม 2024 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานวิจัย Enhanced risk of record-breaking regional temperatures during the 2023 – 24 El Niño ซึ่งเผยแพร่ในวารสาร Scientific Reports เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2024 ระบุว่า มีโอกาสสูงที่ในปี 2024 นี้ ปรากฏการณ์เอลนีโญจะทำให้อุณหภูมิอากาศใกล้ผิวโลก (Surface air temperature) สูงจนทำลายสถิติอีกครั้ง โดยบริเวณอ่าวเบงกอล-ทะเลอันดามัน และทะเลจีนใต้ จะได้รับผลกระทบสูงเป็นพิเศษทั้งด้านอุณหภูมิ และปะการังฟอกขาว

หลังเมื่อเดือนมกราคม องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก เพิ่งประกาศว่า ภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศทำให้ ปี 2023 ที่ผ่านมาเป็นปีที่อากาศร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติเมื่อปี 1850 หรือในรอบ 173 ปี ไปแล้ว

โดยสำนักข่าว The Verge รายงานว่า งานวิจัยนี้ใช้การสร้างแบบจำลองสถานการณ์เอลนีโญในระดับความรุนแรงปานกลาง และรุนแรงมาก จากนั้นจึงศึกษาผลกระทบด้านระดับอุณหภูมิและภัยธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ของโลก

อากาศร้อนทำสถิติใหม่อีก

ผลจากแบบจำลองชี้ว่า ไม่ว่าเอลนีโญจะมีความรุนแรงระดับใดก็มีความเป็นไปได้ถึง 90% ที่อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ยรายปีทั่วโลกในปี 2024 นี้จะสูงจนทำลายสถิติเดิมอีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่อ่าวเบงกอล-ทะเลอันดามัน, ทะเลจีนใต้, ทะเลแคริบเบียน, อะแลสกา และป่าอเมซอน ส่วนสิ่งที่แตกต่างกันจะมีเพียงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากผลของอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น

Advertisment

อ่าวเบงกอล-อันดามัน ทะเลจีนใต้ เดือด

ในกรณีที่เอลนีโญมีความรุนแรงระดับปานกลาง พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจะเป็นบริเวณอ่าวเบงกอล, ประเทศฟิลิปปินส์ โดยบริเวณอ่าวเบงกอลและทะเลอันดามันน้ำทะเลจะอุ่นขึ้นตลอดทั้งปีทำให้แนวปะการังตายเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบทั้งทางระบบนิเวศและเศรษฐกิจ ส่วนประเทศฟิลิปปินส์และหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกจะเกิดภัยแล้งนานต่อเนื่องหลายเดือน

ส่วนกรณีที่เอลนีโญรุนแรงมาก พื้นที่รอบทะเลจีนใต้จะกลายเป็นอีกจุดที่ได้รับผลกระทบหนัก อย่าง อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทำให้แนวปะการังตาย เช่นเดียวกับบริเวณอ่าวเบงกอล และประเทศฟิลิปปินส์ ขณะที่บริเวณป่าอเมซอนจะเกิดภัยแล้งและไฟป่า ส่วนบริเวณอะแลสกาจะสูญเสียธารน้ำแข็งและชั้นดินเยือกแข็งถาวร

“เต๋อเหลียง เฉิน” ศาสตราจารย์ภาควิชาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยโกเธนเบิร์ก หนึ่งในทีมผู้เขียนงานวิจัยฉบับนี้ กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกในแบบของปีนี้ เคยก่อปัญหาให้หลายพื้นที่ในโลกมาแล้ว เราจึงพยายามเตือนผู้คนล่วงหน้าไว้ก่อน

ElNino model
Enhanced risk of record-breaking regional temperatures during the 2023–24 El Niño