”เสริมศักดิ์“ ชวนเที่ยวรถไฟไทย ก.ค. – ส.ค. นี้ นำร่อง 6 เส้นทาง หวังกระตุ้นท่องเที่ยว

“เสริมศักดิ์” ชวนเปิดประสบการณ์เที่ยวรถไฟไทยนำร่อง 6 เส้นทางการท่องเที่ยว ช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม นี้ ดันจำนวนนักท่องเที่ยวภาคกลางแตะ 103.07 ล้านคน-ครั้ง หวังกระตุ้นท่องเที่ยวต่อเนื่องตลอดปี

วันที่ 28 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และ บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด แถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม “สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม”

โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม คณะผู้บริหาร ททท. ร.ฟ.ท. และบริษัทบุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด ให้เกียรติร่วมงาน ชวนเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ด้วยการโดยสารรถไฟ ช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2567 ใน 4 เส้นทางนำร่อง พร้อมแพ็กเกจท่องเที่ยว ได้แก่ กรุงเทพฯเชื่อมโยงเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวต่าง ๆ ทั้งในภาคกลาง (ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุพรรณบุรี) และภาคตะวันออก (ปราจีนบุรี)

เพื่อต่อยอดนโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism ของรัฐบาลและกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศให้คึกคักตลอดช่วง Green Season พร้อมเพิ่มแรงส่งต่อเนื่องกับอีก 2 เส้นทาง ในเดือนสิงหาคมกับกิจกรรม “สิงหา แม่พาเที่ยว” หวังทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวรับความสุขตลอดทั้งปี และช่วยผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวภาคกลางแตะ 103.07 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 3.5 ล้านล้านบาท ตามเป้าหมายปี 2567

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช

Advertisment

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยใช้ศักยภาพทางด้านระบบขนส่งสาธารณะ (Logistics) ของประเทศเป็นเครื่องมือกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดย ททท. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการดำเนินการร่วมกับพันธมิตรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวหลักได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยรูปแบบใหม่ให้เกิดเป็น AMAZING EXPERIENCE ที่มีคุณค่า และมีความหมายในพื้นที่เมืองหลักเชื่อมโยงเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัดทั่วประเทศ ควบคู่กับการนำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านแนวคิด 5 Must Do in Thailand เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism ของรัฐบาล

โดยในครั้งนี้ ได้ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และ บริษัทบุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด จัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟ “สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม” นำร่องกิจกรรมในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 ด้วยการเดินทางเชื่อมโยงกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดในภาคกลางและภาคตะวันออก โดยรถไฟขบวน KIHA 183 ทุกสัปดาห์ จำนวน 4 เส้นทาง

พร้อมแพ็กเกจท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ราคา 3,999 บาทต่อท่าน ได้แก่ เส้นทางที่ 1 กรุงเทพฯ – ราชบุรี วันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2567 เส้นทางที่ 2กรุงเทพฯ – ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 13 – 14 กรกฎาคม 2567 เส้นทางที่ 3 กรุงเทพฯ – สุพรรณบุรี วันที่ 20 – 21 กรกฎาคม 2567 และเส้นทางที่ 4 กรุงเทพฯ – จังหวัดปราจีนบุรี วันที่ 27 –28 กรกฎาคม 2567 เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศให้คึกคักตลอดช่วง Green Season ประกอบกับช่วงเดือนมหามงคล เดือนกรกฎาคมนี้ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น

Advertisment

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช

ขณะเดียวกัน ททท. ยังได้เพิ่มแรงส่งอย่างต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม กับกิจกรรม “สิงหาแม่พาเที่ยว” นำเสนอ 2 เส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟ รูปแบบท่องเที่ยว One Day Trip ได้แก่ เส้นทางที่ 1 แม่พาลูกเที่ยว ชวนนั่งรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ – ฉะเชิงเทรา วันที่ 12 สิงหาคม 2567 และเส้นทางที่ 2 แม่ชวนลูกเที่ยว Royal Blossom รถไฟสายแห่งความสุข กรุงเทพฯ – กาญจนบุรี (ภาคกลาง) วันที่ 17 สิงหาคม 2567

นอกจากนี้ ทั้ง 6 เส้นทางนั้น ททท. ยังมุ่งออกแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่สะท้อนแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเส้นทางท่องเที่ยวที่นำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทย 5 สิ่งต้องห้ามพลาด (5 Must Do) ประกอบด้วย Must Eat : อิ่มอร่อยกับอาหารถิ่น Must See : ละลานตาวัฒนธรรม Must Seek : แสวงหา unseen ถิ่นน่าเที่ยว Mustbuy : หัตถกรรมล้ำค่าน่าซื้อฝาก Must beat : สุดยอดกีฬาท้าทายกายใจ

อีกทั้ง เพิ่มอรรถรสระหว่างการเดินทางโดยมัคคุเทศก์มืออาชีพบรรยายความรู้ และข้อมูลต่าง ๆ และเพิ่มความพิเศษให้แก่ช่วงเวลาแห่งความสุข ระหว่างการเดินทางในเส้นทางขบวนรถไฟ KIHA 183 ตลอดเดือนกรกฎาคม 2567 ด้วย อาทิ เส้นทางราชบุรีพบกับกิจกรรม Fashion Show ผ้าขาวม้าบนรถไฟ, เส้นทางสุพรรณบุรี

รวมถึงยังมีการแสดงเพลงฉ่อยบนขบวนรถไฟ, เส้นทางประจวบคีรีขันธ์ พบกับการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ด้วย Saxophone และเส้นทางปราจีนบุรี พบกับเคล็ดลับการสักการะท้าวเวสสุวัณ จากซินแสเป็นหนึ่ง

ตลอดจนยังพาแวะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยว Must See – Must Seek และทำกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เช่น

เส้นทางราชบุรี : ชมการแสดงหนังใหญ่ ณ วัดขนอนหนังใหญ่ และตักบาตรพระล่องแพ ตลาดโอ๊ะป่อย,

เส้นทางประจวบคีรีขันธ์ : ศึกษาเส้นทางธรรมชาติป่าโกงกาง ทุ่งโปรงทอง และร่วมปลูกต้นจิกที่วนอุทยานปราณบุรีเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวริมชายหาด

เส้นทางสุพรรณบุรี : สัมผัสอารยธรรมทวารวดี สักการะพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง)

เส้นทางปราจีนบุรี : กราบสักการะพระพุทธทวารวดีศรีปราจีน สิรินธรโลกนาถ เนื่องในวันมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา รัชกาลที่ 10

เส้นทางฉะเชิงเทรา : ย้อนกลิ่นอายวันวาน นั่งรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ล่องเรือชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำบางปะกง

และเส้นทางกาญจนบุรี : สร้างประสบการณ์สุดคลาสสิก ตามรอยประวัติศาสตร์ชมสะพานข้ามแม่น้ำแคว ถ้ำกระแซ สักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม อวโลกิเตศวรพันมือองค์ใหญ่แกะสลักไม้ ด้วยรถไฟขบวน Royal Blossom เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ททท. มั่นใจว่าการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และบริษัทบุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด จัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟดังกล่าว จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศตั้งแต่ช่วง Green Season ต่อเนื่องตลอดทั้งปี และจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น ทั้งเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศอย่างทั่วถึงช่วยผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวบรรลุเป้าหมาย ปี 2567 สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม – เมษายน 2567 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนในประเทศแล้วกว่า 120 ล้านคน-ครั้ง และเกิดเป็นรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวประมาณ 880,346 ล้านบาท ตลอดจนกิจกรรมนี้จะนำไปสู่การออกแบบสร้างสรรค์และนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟในภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจจองแพ็กเกจท่องเที่ยวเส้นทางโดยสารรถไฟ ทั้ง 6 เส้นทาง ได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือระบบ D-ticket ของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย 1690

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช