วันทะเลโลก 8 มิ.ย. ชวนแก้ทะเลเดือด ปะการังฟอกขาว อันดามัน-อ่าวไทย

ภาพ: สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI)

8 มิถุนายน ‘วันทะเลโลก – World Ocean Day’ ชวนลงมือทำแก้ปัญหาทะเลร้อน ปะการังฟอกขาว เพราะโลกเดือด และน้ำเสียที่ส่งผลทะเลเปลี่ยนสี กระทบไทยปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล อันดามัน-อ่าวไทย

วันที่ 8 มิถุนายนของทุกปี คือ วันทะเลโลก หรือ วันมหาสมุทรโลก (World Ocean Day) วันดังกล่าวเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2535 ในการประชุมสุดยอดด้านสิ่งแวดล้อม (The Earth Summit) ที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ที่มีประเทศสมาชิก 178 ประเทศรวมตัวกันเผยแพร่ความรู้และรณรงค์ รวมทั้งการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งต่อไปยังประชาชน สร้างจิตสำนึกและความตระหนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ในแต่ละปี World Ocean Day จะมีธีมรณรงค์แตกต่างกัน โดยกว่า 32 ปีที่ผ่านมา จุดโฟกัสจะเป็นในเรื่องการหยุดยั้งปัญหาขยะทะเล และในปีนี้ พ.ศ. 2567 เน้นเรื่องการลงมือทำ (Action) ภายใต้ธีม “Catalyzing Action for our Ocean & Climate : เร่งลงมือเพื่อทะเลและภูมิอากาศ”

ดร.วิจารย์ สิมาฉายา

ผลกระทบอุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น

ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หรือ TEI ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม ได้เรียบเรียงข้อมูลพร้อมหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศของโลกและปรากฏการณ์เอลนีโญในช่วงที่ผ่านมา

โดยระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ได้มีการประเมินว่าถ้าอุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้นกว่าระดับปกติ 1.5 องศาเซนติเกรด ปะการังในโลกจะถูกทำลายกว่าร้อยละ 70-90 และหากอุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้น 2.0 องศาเซนติเกรด ปะการังจะถูกทำลายสูงถึงร้อยละ 99 เลยทีเดียว

Advertisment

ระบบนิเวศแนวปะการังนอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญยังเป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงอี.กด้วย แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมาอุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ส่งผลต่อแนวปะการังทั่วโลกกว่า 54 ประเทศ เช่น ประเทศไทยก็กำลังเผชิญกับภาวะปะการังฟอกขาว

ภาพ: สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI)

ปะการังไทยฟอกขาว จนปิดแหล่งท่องเที่ยว

กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่าเกิด เกิดปะการังฟอกขาวอย่างรุนแรง เหตุจากระดับอุณหภูมิของน้ำทะเลที่สูงขึ้น จนต้องประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล 12 แห่ง ทั้งฝังทะเลอันดามันและอ่าวไทย

โดยในพื้นที่ที่เริ่มเกิดปะการังฟอกขาวแล้วกว่าร้อยละ 50-70 ได้แก่ หมู่เกาะสุรินทร์-สิมิลัน หมู่เกาะชุมพร และอยู่ระหว่างสำรวจเพิ่มเติมอีกในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้สำรวจติดตามสถานการณ์ปะการังฟอกขาวในปี 2567 บริเวณเกาะโลซิน จังหวัดปัตตานี

พบปะการังฟอกขาวร้อยละ 40 สีจางร้อยละ 30 และยังอยู่ในสภาพปกติเพียงร้อยละ 30 โดยปะการังที่ฟอกขาว ได้แก่ ปะการังโขด ปะการังช่องเล็ก และกลุ่มปะการังเขากวางแผ่นแบนแบบโต๊ะ

Advertisment

ขยะทะเล ปัญหาสำคัญ

ดร.วิจารย์ บอกเพิ่มเติมว่า ขยะทะเลเป็นปัญหาสำคัญของประเทศและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะขยะพลาสติก การผลิตพลาสติกทั่วโลกปีละกว่า 400 ล้านตัน และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามความต้องการ และถ้าหากไม่มีการจัดการที่ถูกต้องก็จะมีปัญหาการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมและทะเลได้

“ประเทศไทยเป็นประเทศที่ถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีปัญหาขยะในทะเลระดับ Top 10 ของโลก พร้อมกับอีก 4 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งประเทศไทยสร้างขยะพลาสติกประมาณ 2.5 ล้านตันต่อปี โดยประมาณร้อยละ 13-15 เป็นขยะจากชุมชนทั้งหมด หรือปริมาณปีละ 28–29 ล้านตันต่อปี”

ขณะที่มีระบบจัดการขยะพลาสติกอย่างถูกต้องด้วยการนำไปรีไซเคิลได้ประมาณร้อยละ 25 เท่านั้น ซึ่งที่เหลือร้อยละ 75 ถูกนำไปฝังกลบ หรือเผา หรือกองทิ้ง จึงทำให้ขยะพลาสติกส่วนหนึ่งเล็ดลอดออกสู่คลอง แม่น้ำ และปลายทางที่ทะเล

ขยะพลาสติก 50-60 ปีที่แล้ว เมื่อลงสู่น้ำหรือทะเล จะดูดย่อยเป็นชิ้นเล็ก ๆ โดยใช้เวลาเป็นร้อยปี กลายเป็นไมโครพลาสติก/นาโนพลาสติก ซึ่งเมื่ออยู่ในน้ำก็จะคล้าย ๆ กับแพลงก์ตอน สัตว์น้ำจึงกินเข้าไป และสะสมในส่วนต่าง ๆ และมนุษย์ก็ถูกถ่ายทอดไมโครพลาสติกจากการรับประทานสัตว์น้ำต่าง ๆ นอกจากนี้ก็มีการปนเปื้อนในน้ำ ในเกลือ และระบบนิเวศทางทะเลที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ภาพ: สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI)

ปัญหาน้ำเสีย น้ำทะเลเปลี่ยนสี

ปัญหาน้ำเสีย เป็นปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อทะเล โดยน้ำเสียจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ ที่ไม่ผ่านการบำบัดน้ำเสีย ได้ไหลผ่านแม่น้ำคูคลองต่าง ๆ ซึ่งปลายทางที่ทะเล และได้ส่งผลกระทบต่อทะเลแล้ว ดังปรากกฎการน้ำทะเลเปลี่ยนสี จากสารอาหารที่มากเกินไปจากน้ำเสีย ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและการท่องเที่ยว

กรณีที่เกิดขึ้นที่บางแสน และศรีราชา ช่วงหลังมานี่ เกิดขึ้นถี่และกินบริเวณกว้าง ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อน สำหรับน้ำเสียจากแหล่งชุมชน ที่ประเทศไทยสามารถดำเนินการระบบบำบัดน้ำเสียได้เพียงร้อยละ 26 ของน้ำเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดเท่านั้น

ความท้าทายการท่องเที่ยวทางทะเล

การท่องเที่ยวทางทะเลก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ทำรายได้ให้ประเทศจำนวนมาก การท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ก็จะต้องมีการบริหารจัดการที่ดี คำนึงศักยภาพการรองรับนักท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการมีการจัดการสิ่งแวดล้อมทั้งระบบบำบัดน้ำเสีย และการจัดการขยะที่เกิดจากนักท่องเที่ยว

ขณะนี้ได้กลายเป็นปัญหาสำคัญขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีภารกิจในเรื่องนี้ในหลาย ๆ พื้นที่ รัฐบาลจำเป็นจะต้องเข้าไปช่วยดำเนินการทั้งงการลงทุน การบริหารจัดการ การดูแลระบบ ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

ดร.วิจารย์ ยกตัวอย่าง เกาะลันตา ว่าเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีปัญหาขยะ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยจึงได้รับการสนับสนุนจากหน่วยทุน บพข. (หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ) ในการพัฒนารูปแบบและกลไกการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะและขยะพลาสติกครบวงจร ตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน

โดยการลดและแยกขยะ การนำขยะอาหารไปเลี้ยงสัตว์ การนำขยะพลาสติกไปใช้ประโยชน์ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสร้างรายได้ให้ชุมชน

ในวันที่ 7 มิถุนายน 2567 จังหวัดกระบี่และชาวเกาะลันตา ได้มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันทะเลโลกและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ภายใต้ชื่อ “การสัมมนาชาวเกาะเพื่อการท่องเที่ยวเกาะอย่างยั่งยืน” ที่มีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นเจ้าภาพ และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยได้ร่วมให้ข้อมูลในส่วนการจัดการสิ่งแวดล้อมบนเกาะ

“โลกกำลังจะเดือด ทะเลกำลังจะร้อน ภัยพิบัติทางธรรมชาติจะตามมา เป็นปัญหาที่ทุกคนจะได้รับผลกระทบและต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โดยเร่งรีบแก้ไขปัญหาเดิมและเตรียมพร้อมรองรับกับปัญหาใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ดร. วิจารย์ กล่าวทิ้งท้าย

ภาพ: สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI)