รมว.แรงงานเยือนเจนีวา ประชุมใหญ่ ILC ยื่นสัตยาบันอนุสัญญาฉบับที่ 144

รมว.แรงงาน พิพัฒน์ นำทัพไตรภาคีฝ่ายไทย เยือนนครเจนีวา ยื่นสัตยาบันอนุสัญญา ฉบับที่ 144 หารือ รมว.แรงงานอาเซียน จัดตั้งกองทุน สร้างเครือข่ายพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน

วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางเยือนนครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เพื่อเข้าร่วมการประชุมใหญ่ประจำปีองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Conference : ILC) สมัยที่ 112 และร่วมหารือกับประเทศสมาชิกประเด็นต่าง ๆ โดยเดินทางพร้อมด้วยนายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และผู้แทนฝ่ายรัฐบาล

การมารวมประชุมครั้งนี้ นายพิพัฒน์มีวาระเข้าพบนายกิลเบิร์ต เอฟ. โฮงโบ (Mr. Gilbert F. Houngbo) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ เพื่อหารือข้อราชการด้านแรงงาน

นายพิพัฒน์กล่าวว่า กระทรวงแรงงานนำสัตยาบันอนุสัญญา ฉบับที่ 144 ที่ได้ผ่าน ครม. มาลงนามร่วมกันกับผู้อำนวยการองค์การแรงงานระหว่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย มีสาระสำคัญแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทย ในการส่งเสริมการเจรจาทางสังคมและการปรึกษาหารือไตรภาคี ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดี และการหารืออย่างสร้างสรรค์ ระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล เพื่อมุ่งไปสู่ความยุติธรรมทางสังคม และงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคนในประเทศไทย

ด้านนายไพโรจน์กล่าวเสริมว่า กระทรวงแรงงานยึดมั่นในการทำงานของไตรภาคีเป็นหลัก เพื่อขับเคลื่อนแนวคิดที่ผลักดันมาจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ที่มุ่งเน้นการใช้กลยุทธ์การดำเนินงานที่สำคัญ คือ การเจรจาต่อรอง ในรูปแบบไตรภาคี ที่ต้องมีผู้แทนทั้งสามฝ่าย เพื่อให้มีกลไกการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และเกิดความสมดุลกับทุกฝ่ายต่อไป

Advertisment

นายประพันธ์ ปุษยไพบูลย์ ประธานสภาองค์การนายจ้าง การเกษตร ธุรกิจ อุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า คุณภาพชีวิตแรงงานที่ดียิ่งขึ้น ภายใต้กรอบอนุสัญญาต่าง ๆ สิทธิและความเท่าเทียม และการกระทำที่อาจส่งผลกระทบต่อมนุษยชาติ

และที่สำคัญคือ การน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาคมโลก ซึ่งตัวแทนฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง ต่างชื่นชมกระทรวงแรงงานของประเทศไทยว่าสามารถแก้ไขกฎหมายแรงงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น อีกทั้งเปิดโอกาสให้นายจ้างและเจ้าของกิจการ ได้เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนการทำงานร่วมกับลูกจ้างและรัฐบาล

การเยือนครั้งนี้ นายพิพัฒน์ยังได้มอบหมายให้นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนร่วมหารือกับรัฐมนตรีแรงงานของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานของมาเลเซีย กับนายสติเว่น ซิม ซี เคียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ของมาเลเซีย ซึ่งหารือประเด็นการจัดตั้งกองทุนอาเซียน เป็นประโยชน์ในด้านการสร้างเครือข่ายการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน ตลอดจนการพัฒนาทุนมนุษย์ในประเทศสมาชิกต่อไป

Advertisment