จุฬาฯ ปลื้มประสบความสำเร็จระดับโลก ‘Hult Prize 2024 Global Summits Bangkok’

จุฬาฯ ปลื้มประสบความสำเร็จระดับโลก

การแข่งขันระดับโลกในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโค้งสุดท้ายในระดับนานาชาติ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน จากความร่วมมือของคณาจารย์และนิสิตหลายคณะนำทีมโดยคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CBS) เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “Hult Prize 2024 Global Summits Bangkok” ระหว่างวันที่ 21 – 23 มิถุนายน 2567 ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์ฯ 

ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร

ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร ผู้รักษาการแทนอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ร่วมเป็นประธานเปิดงาน ร่วมกับ Ms.Lori van Dam, Chief Executive, Hult Prize Foundation และ Mr.Lars Svensson, Chief Executive, Sasin Sustainability & Entrepreneurship Center (SEC) ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

โดยศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร กล่าวว่า “ จุฬาฯมีศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพงานแข่งขันระดับโลกมาอย่างต่อเนื่องและครั้งนี้ก็มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน “Hult Prize 2024 Global Summits Bangkok” นับเป็นงานระดับโลกในเวทีการแข่งขันแนวคิดธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability Development Goals) ซึ่งมีผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า60ทีมจาก19ประเทศทั่วโลกพร้อมด้วยให้การต้อนรับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในระดับผู้บริหาร ตัวแทนจากองค์กร Hult Prize ที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง  และใช้โอกาสนี้ ในการผลักดัน Soft Power แบบ Thainess  จัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ณ จังหวัดนครปฐม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากต่างประเทศได้รับประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและเรียนรู้ประเพณีของประเทศไทยอีกด้วย  

สำหรับ การแข่งขัน Hult Prize 2024 Global Summits นี้  จัดขึ้นใน 7 ประเทศทั่วโลกจาก 5 ทวีป โดยมีเงินรางวัลกว่า $1,000,000 สำหรับทีมที่ชนะการแข่งขันเพื่อสร้างธุรกิจจริง ต่อยอดการทำธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน การจัดการแข่งขันในแต่ละปีได้รับความสนใจจากนักศึกษามหาวิทยาลัยจากกว่า 100 ประเทศ เข้าร่วม โดยในปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโค้งสุดท้ายในระดับภูมิภาค และดำเนินงานโดยนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมมือกันจากหลากหลายคณะ ร่วมกันจัดเตรียมงาน ดำเนินการแข่งขัน และดูแลผู้แข่งขันจากต่างประเทศ

Advertisment

เราเชื่อมั่นในการบูรณาการภูมิปัญญาที่สร้างสรรค์เชิงนวัตกรรมร่วมกับจิตวิญญาณเพื่อสังคมและประเทศ จากทุกท่านทั่วโลก ที่มาร่วมประชันไอเดียธุรกิจสังคมที่ไร้ขีดจำกัด เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคม อันจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ สร้างโลกใบนี้ที่ดีขึ้นไปด้วยกัน 

และจุฬาฯ มีมุ่งมั่นสู่ความเป็นผู้นำมหาวิทยาลัยแห่งความยั่งยืน ผ่านนโยบายและการบริหารจัดการ การวิจัยและนวัตกรรม การเรียนการสอน รวมถึงการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมกับชุมชน ซึ่งทางคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ Chulalongkorn Business School (CBS) ในฐานะผู้นำสถาบันการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ สนับสนุนส่งเสริมนิสิตให้มีความเป็นผู้นำด้านธุรกิจพร้อมกับแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน” ศ. ดร.วิเลิศ ภูริวัชร กล่าว

Advertisment

โครงการ Hult Prize เป็นหนึ่งในการแข่งขันการเสนอแผนธุรกิจเพื่อสังคมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นโดย Bill Clinton อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ร่วมกับ Hult International Business School มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างและพัฒนา Social Business Ideas ที่จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาสังคมที่โลกกำลังเผชิญอยู่  โดยโครงการ Hult Prize ถือเป็นโครงการแนวหน้าที่สร้างคุณูประโยชน์ให้กับประชาคมโลกด้วยการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับประชากรโลกมากกว่า 50 ล้านคน การจัดการแข่งขัน Hult Prize 2024 Global Summits จัดขึ้นใน 7 ประเทศทั่วโลกจาก 5 ทวีป โดยมีเงินรางวัลกว่า $1,000,000 สำหรับทีมที่ชนะการแข่งขันเพื่อสร้างธุรกิจจริง ต่อยอดการทำธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน 

ทั้งนี้ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้าร่วมการแข่งขัน Hult Prize มาตั้งแต่ปี 2015 ภายใต้ชื่อ ‘Hult Prize at Chula’ ซึ่งเป็นการประกวดแข่งขันแนวคิดการสร้างธุรกิจเพื่อสังคมเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก โดย Hult Prize at Chula มีเป้าหมายที่จะเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้นิสิตจุฬาฯ ได้พัฒนาศักยภาพผ่านการแข่งขันเวทีระดับโลก แก้โจทย์ปัญหาเคสธุรกิจที่ทั้งช่วยสร้างคุณประโยชน์ทางธุรกิจและสร้างผลกระทบทางสังคมให้โลกใบนี้ดีขึ้น โดยหัวข้อการแข่งขันในปีนี้ คือ “Unlimited” สร้างธุรกิจเพื่อสังคมที่ตรงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ของสหประชาชาติอย่างน้อย 1 เป้าหมาย การที่จุฬาฯ ได้มีส่วนเข้าร่วมในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่สำคัญของคณะทำงานทั้งคณาจารย์และนิสิตร่วมกันกับทีม Central Hult Prize,  พร้อมที่จะนำประสบการณ์ดีๆครั้งนี้ไปต่อยอดและประยุกต์ใช้กับการทำงานจริง เพื่อขับเคลื่อนสังคมและประเทศชาติต่อไปในอนาคต 

น.ส.ภัทราพร ยิ่งวิวัฒน์ ชั้นปีที่ 4 หลักสูตรสถิติศาสตรบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ในฐานะประธานผู้จัดงานโครงการ Hult Prize 2024 Bangkok Summit ประสบการณ์ที่รับจากการจัดโครงการในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่สำคัญและมีค่าเป็นอย่างมาก การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน หลังจากได้ทำการคัดเลือกตัวแทนไปแข่งในต่างประเทศมานานกว่า 10 ปี ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ทำงานในฐานะประธานจัดงานในครั้งนี้ พร้อมยังได้ทำงานร่วมกันกับทีม Central Hult Prize, คณาจารย์คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทีมงานกว่า 60 ชีวิต ที่ทำงานร่วมกันมานานกว่า 6 เดือน โดยที่ทุกคนมีความตั้งใจเดียวกันในการสร้างสรรค์งานนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นประเทศเจ้าภาพที่ดีที่สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีและความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน ในขณะเดียวกันทีมงานทุกคนก็ยังได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะทั้งในด้านต่าง ๆ อาทิเช่น การทำงานร่วมกันกับชาวต่างชาติ ทักษะการสื่อสาร และการวางแผนจัดการ การจัดงานในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้เราทุกคนได้มีโอกาสพัฒนาตัวเอง พร้อมที่จะนำไปต่อยอดและประยุกต์ใช้ต่อไปในอนาคต

น.ส. พิชชาภา เลิศศรีสุวัฒนา ชั้นปีที่ 4 หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี กล่าวว่า จากการที่ได้ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในรองประธานของผู้จัดงานโครงการ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานในครั้งนี้ จากระยะเวลาการเตรียมงานกว่า 6 เดือนสู่ 4 วัน ทีมงานทุกคนมีความตั้งใจในการจัดงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก นอกจากต้องการมอบประสบการณ์และความทรงจำที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าแข่งขันและผู้ร่วมงานทุกท่านแล้ว การจัดงานในครั้งนี้ยังคำนึงถึงจุดประสงค์หลักของ Hult Prize ตามหลัก Sustainable Development Goals เป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน อีกทั้งงานนี้ยังช่วยในการสื่อภาพลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และความเป็นไทยออกไปสู่ต่างชาติอีกด้วย ผลตอบรับที่ได้ถือว่าดีเกินคาด ทั้งหมดนี้ต้องขอยกความดีความชอบให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน และถือเป็นอีกก้าวสู่ความสำเร็จที่สำคัญของพวกเราทุกคน