สงครามอิสราเอลช็อกวงการอสังหา แข่งเทสต๊อกกำสภาพคล่อง

อสังหา

จับตาสงครามอิสราเอลช็อกวงการอสังหาฯ นายกสมาคมคอนโดชี้ ไตรมาส 4/66 ดีเวลอปเปอร์กลาง-เล็กถูกเบรกลงทุนอัตโนมัติ เพราะแบงก์คุมกำเนิดสินเชื่อหนักข้อกว่าเดิม หุ้นกู้โรลโอเวอร์หืดจับติดต่อกัน 2 ไตรมาส บิ๊กแบรนด์ทุนหนาเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ตามแผนเดิม แนะกำเงินสดเสริมสภาพคล่อง “แสนสิริ-พฤกษา-เอสซี” ชนบิ๊กอีเวนต์ระบายสต๊อกระลอกใหญ่ 3 สมาคมอสังหาฯ จัดมหกรรมบ้าน-คอนโด #44 ขน 1,000 โครงการเทกระจาดครั้ง
สุดท้าย ก่อนปรับราคาขึ้นในปีหน้า

มองบวก “ไทยมีความเป็นกลาง”

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์สงครามอิสราเอล เป็นเรื่องความไม่แน่นอนและอนาคตที่ไม่อาจคาดเดาได้ (unknown factor) ซึ่งเป็นข้อพึงระวังสำหรับผู้ประกอบการตั้งแต่มีสถานการณ์โควิดแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่านับตั้งแต่ปี 2563 มีวิกฤตใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทั้งโควิด สงครามรัสเซีย-ยูเครน ล่าสุดสมรภูมิที่พรมแดนฉนวนกาซา คือเรื่องใหม่ ๆ ของไตรมาสสุดท้ายของปี 2566

ผลกระทบใกล้ตัวเป็นเรื่องภาคการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจมีความกังวล เพราะภูมิภาคมิดเดิลอีสต์เป็นฮับการบินของโลก ถ้าหากขอบเขตสงครามจำกัดอยู่เพียงคู่กรณีคือ อิสราเอลกับปาเลสไตน์ ผลกระทบอาจจำกัดวง แต่ถ้าหากสงครามลุกลามบานปลายออกไป จะกลายเป็นความเสี่ยงระดับโลกได้

สำหรับประเทศไทย มองระยะสั้นจะเป็นผลกระทบเชิงลบ กดดันการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นความหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4/66 ของไทย เพราะนักท่องเที่ยวมีความกังวลในการเดินทาง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งถือเป็นทัพหลวงด้านการท่องเที่ยวไทย ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางมีโอกาสจะดรอปลงด้วย ถึงแม้จำนวนไม่เยอะ แต่มีการใช้จ่ายต่อหัวมูลค่าสูง

ในขณะที่ระยะกลางถึงระยะยาวคาดว่าเป็นภาพบวก เพราะเมืองไทยมีความน่าอยู่ มีความเป็นกลาง ซึ่งเป็นจุดสำคัญมาก เนื่องจากไทยเล่นเกมการเมืองโลกได้ดี ตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นจนถึงปัจจุบัน ในการรักษาความเป็นกลางทางการเมืองระหว่างประเทศ

Advertisment

สำหรับผลกระทบทางอ้อม จากปัจจัยกดดันในด้านราคาพลังงานแพง การคมนาคมขนส่งเส้นทางหลักของโลกรับผลกระทบ ส่งผลต่อเนื่องไปถึงระบบซัพพลายเชนของโลกอีกรอบ หากโฟกัสเฉพาะปัญหาราคาพลังงานแพงก็ถือว่ารุนแรงแล้ว เพราะเป็นตัวกดดันให้ต้นทุนประกอบการในทุกสินค้าต้องสูงขึ้นโดยปริยาย

ตุนสภาพคล่อง-หุ้นกู้อาการหนัก

นายกสมาคมอาคารชุดไทยกล่าวต่อว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 4/66 การเตรียมตัวรับมืออนาคตที่คาดเดาไม่ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องรักษาสภาพคล่องขององค์กรให้แข็งแรงที่สุด เพราะทุกครั้งที่เกิดความผันผวนทางเศรษฐกิจ สิ่งแรกที่สถาบันการเงินทำคือไม่อยากปล่อยสินเชื่อ เพราะแนวโน้มวิกฤตยังไม่จบโดยง่าย

“ปีนี้เรามีภาวะความเชื่อมั่น และสภาพคล่อง เป็นปัญหาเดิมอยู่แล้ว ในทางมหภาคการไหลออกของเงินทุนในประเทศไทยต่ำกว่าไปลงทุนต่างประเทศ จึงมีความน่ากังวล

ผมมองว่ากำลังซื้อที่หายไป ไม่ได้น่ากลัวมากเท่าสภาพคล่องที่หายไป จึงอยากฝากทางผู้ประกอบการให้ตุนเงิน ตุนสำรองสภาพคล่องไว้ให้มากที่สุด ช่วงนี้อย่าเพิ่งไปลงทุนมากนัก”

Advertisment

ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่ นับเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล พบว่าในช่วง 5 เดือนสุดท้าย (สิงหาคม-ธันวาคม 2566) มีการวางแผนเปิดขายบ้านและคอนโดมิเนียมมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่เน้นลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้าย เหตุผลเพราะต้องการรอให้การเมืองภายในนิ่ง และรอให้ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการและผู้บริโภคกลับคืนมาเสียก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อมีวิกฤตรอบใหม่จากสงครามอิสราเอล จะมีผลกระทบทำให้ต้องเบรกหรือชะลอการลงทุนออกไปปีหน้าหรือไม่

ประเด็นนี้ นายพีระพงศ์กล่าวว่า จากการประเมินน่าจะมี 2-3 แนวทาง คือ 1.บิ๊กแบรนด์อสังหาฯในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความแข็งแกร่งและได้เปรียบทั้งเงินทุนและความสามารถในการขายและโอน ดังนั้น แผนลงทุนคาดว่ายังคงเดินหน้าต่อไป ขณะที่อสังหาฯรายกลาง-รายเล็ก ผลจากการเกิดสงครามอิสราเอลจะทำให้ต้องเบรกโครงการใหม่โดยอัตโนมัติ เพราะแบงก์ไม่ปล่อยสินเชื่อ จากเดิมก็เข้มงวดการให้สินเชื่อพรีไฟแนนซ์ (สินเชื่อก่อสร้างโครงการ) อยู่แล้ว

“ปีนี้เป้าไม่ลด แต่ปีหน้าอาจต้องปรับตัวหน่อย ต้องมอนิเตอร์ว่า (สงคราม) มันยาวไหม กระทบแค่ไหน เรื่องนี้กำลังดูอยู่”

2.ในด้านยอดขายที่ดีเวลอปเปอร์มีความคาดหวังในไตรมาส 4/66 เช่น ตั้งเป้ายอดขาย-ยอดโอน 100 บาท ผลกระทบสงครามอุบัติใหม่อาจทำให้หลุดเป้าไม่เกิน 10-20% ซึ่งถือว่าไม่ได้ทำให้เดือดร้อนมากนัก

และ 3.ผลกระทบรุนแรงจะเกิดขึ้นจากปัญหาสภาพคล่อง จุดโฟกัสอยู่ที่บริษัทที่ถึงคิวจะต้องโรลโอเวอร์หุ้นกู้ในไตรมาส 4/66 จะมีความยากลำบากกว่าเดิม รวมทั้งผลกระทบจะส่งต่อไปในไตรมาส 1/67 ที่แบงก์หรือสถาบันการเงินระมัดระวังหรือเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม

“ในส่วนของออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เราไม่มีหุ้นกู้ที่จะโรลโอเวอร์ ที่ผ่านมา 9 เดือนแรกมีการเปิดโครงการใหม่ไปครึ่งหนึ่งของเป้าหมายทั้งปี และมีผลตอบรับที่พอใช้ได้อยู่ ดังนั้นจึงยังไม่ปรับแผนลงทุนในปีนี้”

ต่างชาติสนช็อปอสังหาฯไทย

“วิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา ทั้งโควิด รัสเซีย-ยูเครน ล่าสุดที่อิสราเอล ผมมองว่าสงครามครั้งนี้หนักสุด เรื่องของความเชื่อ ความขัดแย้งทางศาสนา เป็นชนวนที่จุดติดง่ายมาก น่ากลัวมาก”

ในด้านความหวังด้านยอดขายจากลูกค้าต่างชาติที่จะมาช็อปซื้อคอนโดฯในไตรมาส 4/66 นั้น นายพีระพงศ์กล่าวว่า ประเมินเป็นทิศทางเดียวกับกำลังซื้อลูกค้าคนไทย คาดว่ายอดขายกระทบไม่เยอะ เช่น ตั้งเป้าขาย 100 บาท อาจเหลือ 80-85 บาท

“กำลังซื้อลูกค้าต่างชาติ ผมยังมองว่าคนจะขนเงินมาซื้ออสังหาฯบ้านเรา หรือประเทศที่เป็นกลางมากขึ้น เพราะอสังหาฯเป็นเรื่องระยะยาว การท่องเที่ยวกระทบระยะสั้น แต่ใครที่มีตังค์ เช่น ลูกค้ารัสเซีย ผมยังเชื่อว่าเขาจะมาซื้อวิลล่าเยอะในไตรมาส 4 เหมือนเดิม เพราะสงครามยังไม่จบ แนวโน้มมีแต่จะวุ่นวายมากขึ้น”

แสนสิริขออีเวนต์เดียว 3.5 พันล้าน

นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริเตรียมจัดงานใหญ่แห่งปี “Museum of YOU” ที่ชั้น 1 แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน ในวันที่ 27-29 ตุลาคมนี้ นำเสนอประสบการณ์ครั้งใหม่จากคอนโดฯแบรนด์ล่าสุด และอีก 4 แบรนด์บ้านแนวราบ ตั้งเป้าสร้างยอดขายรวมจากงานนี้จำนวน 3,500 ล้านบาท

อีกหนึ่งไฮไลต์อยู่ที่แสนสิริ คัดยูนิตพิเศษจาก 34 โครงการที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ จัดแคมเปญ การันตีราคาดีที่สุด “เจอต่ำกว่า เราจ่ายคืนให้” อาทิ คอนโดฯ XT ห้วยขวาง รับส่วนลดสูงสุด 2 ล้านบาท, dcondo Panaa และ THE MUVE Bangna, บ้านแนวราบโครงการสราญสิริ ศรีวารี, บุราสิริ วัชรพล, เศรษฐสิริ วงแหวน-จตุโชติ, สิริ เพลส พัฒนาการ, สิริ เพลส พระราม 2-วงแหวน ฯลฯ โดยร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จัดแพ็กเกจสินเชื่อดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี

“เห็นได้ว่าช่วงเวลานี้ ดีเวลอปเปอร์ต่างพากันจัดงานและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย แสนสิริเตรียมการจัดงาน Museum of YOU อย่างหนัก และเป็นการกลับมาจัดงานอย่างยิ่งใหญ่นี้อีกครั้งในรอบ 4 ปี” นายองอาจกล่าว

พฤกษาฯเทสต๊อก 107 โครงการ

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจัดโปรโมชั่นครั้งใหญ่ส่งท้ายปี “โปรแร๊งส์…ทะลุโลก” ตั้งแต่วันนี้-30 พฤศจิกายนนี้ นำบ้านและคอนโดฯในเครือ 107 โครงการ ทุกทำเลทั่วประเทศ เงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่โอนกรรมสิทธิ์ภายใน 31 ธันวาคมนี้ มูลค่าทุก ๆ 5 แสนบาท รับสิทธิลุ้นรถยนต์เทสลา 3 คัน มูลค่ารวม 6 ล้านบาท จับรางวัล 2 รอบ แบ่งเป็นรอบแรก วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 รอบสอง วันที่ 23 มกราคม 2567

นอกจากนี้ มีโปรโมชั่นส่วนลดเงินสดสูงสุด 2 ล้านบาท ฟรีเงินดาวน์ แอร์ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ทองคำ ฟรีค่าโอน ค่าประกันมิเตอร์ไฟ ค่าส่วนกลาง ฯลฯ ในด้านสินเชื่อร่วมกับพันธมิตรสถาบันการเงิน นำเสนอเงินกู้ดอกเบี้ยคงที่ 1.99% 3 ปีสำหรับยอดโอนคอนโดฯ และ 2% 3 ปีสำหรับยอดโอนบ้านแนวราบ หรือผ่อนต่ำเดือนละ 2,500 บาท วงเงินอนุมัติสูงสุด 110% กรณีลงทะเบียนช่องทาง Facebook : PRUKSA Family Club เพียง capture หน้าจอคูปอง รับส่วนลดเพิ่มเติมสูงสุด 60,000 บาท

SC ฉลอง 20 ปีสองบิ๊กอีเวนต์

นายมงกุฎ เตโชฬาร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวราบ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้นำการเป็น living solution provider คุณภาพสูง เปิดเผยว่า ไตรมาส 4/66 บริษัทดำเนินธุรกิจในเชิงรุกทั้งการตลาดและการขายผ่านแคมเปญโปรโมชั่น ควบคู่ไปกับการเปิดตัวบ้านแนวราบโครงการใหม่ โดยแผนทั้งปีตั้งเป้าเปิด 22 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3 หมื่นล้านบาท

โดยไตรมาส 4 มีแผนเปิด 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 10,680 ล้านบาท อาทิ บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ รามอินทรา-วัชรพล บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาท, วี คอมพาวด์ ราชพฤกษ์-345 บ้านแฝด 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท ฯลฯ

พร้อมทั้งมอบสิทธิประโยชน์กระตุ้นยอดขาย “Enjoy Your Super Smiles-โปรฯเยอะจนต้องยิ้ม” นำ 60 โครงการทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฟรีค่าส่วนกลางสูงสุด 20 ปี วันนี้-30 พฤศจิกายนนี้ และในโอกาสครบรอบ 20 ปีก่อตั้งองค์กร จัดบิ๊กแคมเปญแห่งปี “20 Years of Good Mornings” ระหว่างวันที่ 19-23 ตุลาคมนี้ ณ ลานพาร์ค พารากอน

ทั้งนี้ เนื่องจากปีนี้มีวาระพิเศษครบ 20 ปี บริษัทอาจพิจารณาจัดบิ๊กอีเวนต์กระตุ้นการตัดสินใจซื้ออีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะผลักดันยอดขายและยอดโอนได้ตามเป้าที่วางไว้

มหกรรมบ้านฯเท 1,000 โครงการ

ดร.ทัพพ์เทพ ภัคกระนก กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรอปิคอล เฮอริเทจ จำกัด ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 ชูคอนเซ็ปต์ Property Solutions เปิดเผยว่า ทาง 3 สมาคมวงการพัฒนาที่ดิน ได้แก่ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ร่วมกันจัดงานมหกรรมบ้านฯ ครั้งล่าสุด โดยมีผู้ประกอบการออกบูทมากกว่า 1,000 โครงการ กำหนดจัดวันที่ 2-5 พฤศจิกายนนี้

ไฮไลต์ภายในงาน ถือช่วงเวลาที่ดีของผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยและผู้ต้องการขอสินเชื่อ ก่อนที่ราคาจะมีการปรับตัวขึ้นในปีหน้า จากต้นทุนราคาวัสดุที่ปรับตัวสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยมีพันธมิตร 3 ธนาคารใหญ่ ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กสิกรไทย และยูโอบี ร่วมออกบูทให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อกู้เงินซื้อบ้าน อาทิ ธอส. ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จนถึงสิ้นปี 2566 เป็นต้น
“การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นโอกาสทองของผู้บริโภคที่ควรรีบตัดสินใจซื้อในปีนี้ เพราะราคาและค่าใช้จ่ายถูกกว่าปีหน้าแน่นอน รวมถึงยังใช้สิทธิประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จากส่วนลดค่าโอน 2% เหลือ 1% และค่าจดจำนอง 1% เหลือ 0.01% ที่จะหมดอายุมาตรการภายในสิ้นปีนี้” ดร.ทัพพ์เทพกล่าว