ครม.สัญจรโคราชเทงบ 496 ล้าน พัฒนา 4 จังหวัดนครชัยบุรินทร์

เศรษฐาสัญจร ครม.โคราช ผ่าน 24 โครงการ ใช้งบฯปีนี้ 496 ล้าน รับจัดพืชสวนโลกปี’72 สนับสนุนงานผ้าไหม อาหาร ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ยกระดับสินค้าเกษตรมูลค่าสูง สร้างอารยสถาปัตย์ภูเขาไฟกระโดง บุรีรัมย์ สร้างถนนขยายช่องจราจร คลังชงยกเลิกภาษีขาเข้า Duty Free

วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ที่หอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 4/2567

และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) ว่า ครม.เห็นชอบในหลักการโครงการในกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 16 โครงการ กรอบวงเงิน 249 ล้านบาท โดยให้กลุ่มจังหวัดและจังหวัด ขอรับจัดสรรงบฯกลางปี’67

และเห็นชอบในหลักการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน จำนวน 8 โครงการ กรอบวงเงิน 247.15 ล้านบาท โดยให้ส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการขอรับการจัดสรรงบฯกลางในปี’67 นอกจากนี้ ครม.มีมติเห็นชอบการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2572 ที่ไทยได้รับการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงาน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาให้ทันเวลาปี 2572

ครม.สัญจรโคราช

Advertisment

อนุมัติ 249 ล้าน กลุ่มจังหวัด

ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมเห็นชอบโครงการที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 จำนวน 16 โครงการ 249,004,600 ล้านบาท

ดังนี้ 1.โครงการส่งเสริมศักยภาพไหมอีสาน กลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ วงเงิน 9,000,000 บาท 2.โครงการ Triple Heritage Ring Road 6,000,000 บาท 3.โครงการการสร้างศูนย์กลางการประกอบอาหารของนครชัยบุรินทร์ 30,600,000 บาท 4.โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัยนครชัยบุรินทร์ กิจกรรมยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชนนครชัยบุรินทร์ ด้วยภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย 4,390,600 บาท

พัฒนาเขาใหญ่-ขยายถนน

5.โครงการพัฒนาพื้นที่เขาใหญ่เพื่อได้รับการรับรองเป็น Blue Zone 6,000,000 บาท 6.โครงการ Locations for Filming Industry in Korat 6,000,000 บาท 7.โครงการส่งเสริมการผลิตและขยายท่อนพันธุ์มันสำปะหลังสะอาดจังหวัดนครราชสีมา 5,600,000 บาท 8.โครงการระบบผลิตน้ำประปาขนาดใหญ่ กำลังการผลิต 10,000,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จำนวน 6 กิจกรรม 32,400,000 บาท

Advertisment

9.โครงการยกระดับมาตรฐานเส้นทางคมนาคมสายหลัก (ขยายช่องทางจราจรถนนเสาหลักให้เป็น 4 ช่องจราจรตลอดสายทาง) กิจกรรม : ขยายช่องทางจราจรให้เป็น 4 ช่องจราจร (เทพสถิต-ซับใหญ่) จ.ชัยภูมิ 40 ล้านบาท 10.โครงการยกระดับสินค้าเกษตรมูลค่าสูง เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน 3 ล้านบาท

11.โครงการแปลงขยะเศษอาหารและเศษวัชพืชเป็นปุ๋ยอินทรีย์ วงเงิน 7 ล้านบาท 12.โครงการบำรุงรักษาทางหลวงบูรณะทางผิวแอสฟัลต์ทางหลวง 10 ล้านบาท 13.โครงการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกตามหลักอารยสถาปัตย์ในแหล่งท่องเที่ยวเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง จ.บุรีรัมย์ 12,050,000 บาท

14.โครงการงานขยายเขตจำหน่ายน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและรองรับการพัฒนาในพื้นที่อำเภอบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ 26,964,000 บาท 15.โครงการก่อสร้างถนนลาดยางแอสฟัลติกคอนกรีต สายแยกเขาขาว-จุดชมวิวผามะนาว 33,800,000 บาท และ 16.โครงสร้างผลิตน้ำประปาแบบ POG Tanks (Size L) 16,200,000 บาท

โดยให้กลุ่มจังหวัดและจังหวัดขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบประมาณรายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินจำเป็นตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดนำโครงการบรรจุไว้ในแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดตามขั้นตอนต่อไป

ไฟเขียว 247 ล้านภาคเอกชน

ข้อเสนอประเด็นการพัฒนากลุ่มจังหวัดและจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 ของภาคเอกชน พบว่าข้อเสนอกลุ่มจังหวัดของภาคเอกชนที่มีความพร้อมดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี จำนวน 8 โครงการ กรอบวงเงิน 247,153,400 บาท

ดังนี้ 1.โครงการปรับปรุงก่อสร้างถนนเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวสายทางเข้าเขื่อนลำแชะ วงเงิน 35 ล้านบาท 2.โครงการสร้างเศรษฐกิจเพิ่มมูลค่าอาหาร SAN ดี ประจำถิ่นนครชัยบุรินทร์ From Local to Global 14,653,400 บาท 3.โครงการระบบระบายน้ำช่วงบ้านกอพร้อมอาคารประกอบ 32 ล้านบาท 4.โครงการขับเคลื่อน Soft Power โคราชเมืองศิลปะ 8,500,000 บาท 5.โครงการฟื้นฟูภูมิทัศน์วัฒนธรรมคูเมืองกำแพงเมือง อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย 7 ล้านบาท

6.โครงการเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวและพัฒนา Landmark จังหวัดชัยภูมิ 50 ล้านบาท 7.โครงการพัฒนาแหล่งน้ำรองรับการขยายตัวพื้นที่เขตเศรษฐกิจเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำห้วยยาง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ วงเงิน 50 ล้านบาท 8.งานก่อสร้างโครงข่ายทางหลวงแผ่นดินตำบลหนองบัว อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ 50 ล้านบาท

ครม.สัญจรโคราช

รับทราบยกเลิก Duty Free ขาเข้า

ด้านนางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมมีมติรับทราบแนวทางการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้

1.แนวทางการหยุดการดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรด้านคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้าปลอดอากรขาเข้าของผู้ประกอบการ ทั้งนี้ มีผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรทั้งหมด 3 ราย ได้มีหนังสือถึงอธิบดีกรมศุลกากร โดยยินดีที่จะหยุดการดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรด้านคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้าน Duty Free ขาเข้าตามนโยบายของรัฐบาลจนกว่ารัฐบาลจะมีการยกเลิกนโยบายดังกล่าว

กรณีผู้ประกอบการมีความยินดีในการหยุดดำเนินการ เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับหลักการที่กระทรวงการคลัง มีแนวคิดจะแปลงวงเงินใช้จ่ายในร้าน Duty Free ขาเข้ามาหมุนเวียนใช้จ่ายในประเทศได้โดยไม่ต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อยกเลิกการอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้าน Duty Free ขาเข้า

ครม.สัญจรโคราช

2.ผลประโยชน์และผลกระทบ นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยในประเทศมากขึ้น คาดว่าจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่อคนต่อทริปเพิ่มขึ้นประมาณ 570 บาท ส่วนผลต่อการใช้จ่ายของผู้เดินทางชาวไทย ผู้เดินทางชาวไทยอาจจะเลือกใช้จ่ายซื้อสินค้าปลอดอากรจากประเทศต้นทางเพื่อทดแทนหรือใช้จ่ายซื้อสินค้าประเภทเดียวกันในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยขึ้นกับปัจจัยในการตัดสินใจที่แตกต่างกัน

ผลต่อผู้ประกอบการภายในประเทศ ผู้ประกอบ Duty Free จะมีการสูญเสียรายได้อากรขาเข้าส่วนของการจำหน่ายสินค้าในร้าน Duty Free ขาเข้า อย่างไรก็ดี หากมีการหยุดการดำเนินการจำหน่ายสินค้าในร้าน Duty Free ขาเข้าเป็นระยะเวลา 1 ปี คาดว่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านค้าและผู้เกี่ยวข้องในภาคการท่องเที่ยว ตลอดจนร้านค้าทั่วไปเสมือนได้รับเม็ดเงินหมุนเวียนใหม่เพิ่มเติมสูงสุด 3,460 ล้านบาทต่อปี เป็นการสร้างโอกาสและส่งผลเชิงบวกต่อการผลิต การลงทุน และการจ้างงาน

และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียน มีการกระจายสู่ผู้ประกอบการร้านค้าในวงกว้างเพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้เกิดการขยายฐานการจัดเก็บภาษีของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม และคาดว่าจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ขยายตัวได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.012 ต่อปี

ครม.สัญจรโคราช