เช็คมติ ครม. สัญจรโคราช อนุมัติโครงการอะไรบ้าง

เศรษฐา ทวีสิน

การประชุม ครม.สัญจร จ.นครราชสีมา อนุมัติโครงการพัฒนาจังหวัดหลายโครงการ รวมถึงการแต่งตั้งที่

วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ​(ครม.) สัญจร ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 4/2567 โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

ที่ประชุม ครม.เห็นชอบโครงการสำคัญที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี ของจังหวะและกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 จำนวน 16 โครงการ 249,004,600 ล้านบาท

1.โครงการส่งเสริมศักยภาพไหมอีสาน กลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ 9,000,000 บาท

2.โครงการ Triple Heritage Ring Road 6,000,000 บาท

Advertisment

3.โครงการการสร้างศูนย์กลางการประกอบอาหารของนครชัยบุรินทร์ วงเงิน 30,600,000 บาท

4.โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัยนครชัยบุรินทร์ กิจกรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชนนครชัยบุรินทร์ ด้วยภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย วงเงิน 4,390,600 บาท

5.โครงการพัฒนาพื้นที่เขาใหญ่เพื่อได้รับการรับรองเป็น Blue Zone วงเงิน 6,000,000 บาท

6.โครงการ Locations For Filming Industry in Korat วงเงิน 6,000,000 บาท

Advertisment

7.โครงการส่งเสริมการผลิตและขยายท่อนพันธุ์มันสำปะหลังสะอาดจังหวัดนครราชสีมา วงเงิน 5,600,000 บาท

8.โครงการระบบผลิตน้ำประปาขนาดใหญ่กำลังการผลิต 10,000,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง จำนวน 6 กิจกรรม วงเงิน 32,400,000 บาท

9.โครงการยกระดับมาตรฐานเส้นทางคมนาคมสายหลัก (ขยายช่องทางจราจรถนนเสาหลักให้เป็นสี่ช่องจราจรตลอดสายทาง) กิจกรรม : ขยายช่องทางจราจรให้เป็นสี่ช่องจราจร (เทพสถิต-ซับใหญ่) จ.ชัยภูมิ วงเงิน 40 ล้านบาท

10.โครงการยกระดับสินค้าเกษตรมูลค่าสูงเพิ่มขีดความความสามารถการแข่งขัน วงเงิน 3 ล้านบาท

11.โครงการแปลงขยะเศษอาหารและเศษ วัชพืชเป็นปุ๋ยอินทรีย์ วงเงิน 7 ล้านบาท

11.โครงการบำรุงรักษาทางหลวงบูรณะทางผิวแอสฟัลต์ทางหลวง วงเงิน 10 ล้านบาท

12.โครงการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกตามหลักอารยะสถาปัตย์ในแหล่งท่องเที่ยวเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง จ.บุรีรัมย์ 12,050,000 บาท

13.โครงการงานขยายเขตจำหน่ายน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและรองรับการพัฒนาในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ วงเงิน 26,964,000 บาท

14.โครงการก่อสร้างถนนลาดยางแอสฟัลติกคอนกรีตสายแยกเขาขาว-จุดชมวิวผามะนาว วงเงิน 33,800,000 บาท และโครงสร้างผลิตน้ำประปาแบบ POG Tanks (size L) วงเงิน 16,200,000 บาท

15.โครงการก่อสร้างถนนลาดยางแอสฟัลติกคอนกรีตสายแยกเขาขาว-จุดชมวิวผามะนาว วงเงิน 33,800,000 บาท

16.โครงสร้างผลิตน้ำประปาแบบ POG Tanks (size L) วงเงิน 16,200,000 บาท

ส่วนข้อเสนอกลุ่มจังหวัดของภาคเอกชนที่มีความพร้อมดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี จำนวน 8 โครงการ กรอบวงเงิน 247,153,400 บาท ดังนี้

1.โครงการปรับปรุงก่อสร้างถนนเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวสายทางเข้าเขื่อนลำแชะวงเงิน 35 ล้านบาท

2.โครงการสร้างเศรษฐกิจเพิ่มมูลค่าอาหาร SAN ดี ประจำถิ่นนครชัยบุรินทร์ From Local to Global วงเงิน 14,653,400 บาท

3.โครงการระบบระบายน้ำช่วงบ้านกอ พร้อมอาคารประกอบ วงเงิน 32 ล้านบาท

4.โครงการขับเคลื่อน Soft Power โคราชเมืองศิลปะ วงเงิน 8,500,000 บาท

5.โครงการฟื้นฟูภูมิทัศน์วัฒนธรรมคูเมืองกำแพงเมือง อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย วงเงิน 7 ล้านบาท

6.โครงการเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวและพัฒนา Land Mark จังหวัดชัยภูมิ วงเงิน 50 ล้านบาท

7.โครงการพัฒนาแหล่งน้ำรองรับการขยายตัวพื้นที่เขตเศรษฐกิจเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำห้วยยาง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ วงเงิน 50 ล้านบาท

8.งานก่อสร้างโครงข่ายทางหลวงแผ่นดินตำบลหนองบัว อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ วงเงิน 50 ล้านบาท

ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งจัดทำข้อเสนอโครงการ โดยให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณอย่างรอบคอบรวมทั้งให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดนำโครงการบรรจุไว้ในแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดตามขั้นตอนต่อไป

ปรับปรุง 5 โรงพยาบาล 5 จังหวัด

อนุมัติรายจ่ายลงทุนในการใช้จ่ายเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โครงการพัฒนาระบบสาธารณสุข วงเงิน 8,510 ล้านบาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ เพื่อก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลและจัดหาครุภัณฑ์ของ 5 โรงพยาบาล ใน 5 จังหวัด ได้แก่

1.อาคารศูนย์โรคหัวใจ ซีซียู ไอซียู ผู้ป่วยในโรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่

2.อาคารศูนย์มะเร็งและห้องพิเศษ 9 ชั้น โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์

3.อาคารวินิจฉัยและรักษา เป็นอาคาร คสล. 8 ชั้น โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี

4.อาคารผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยใน 300 เตียง โรงพยาบาลมะการักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี

5.โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาระบบบริการสุขภาพและโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นไปตามหลักสากลและขยายเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยนอกผู้ป่วยผู้ป่วยในผู้ป่วยวิกฤติที่มีจำนวนมากขึ้นทุกปีให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณะได้อย่างทั่วถึงเท่าเทียมและมีคุณภาพ

ปรับปรุงแผนก่อหนี้ 2.7 แสนล้าน

อนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 2

มีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้

1. อนุมัติตามข้อเสนอของคณะกรรมการฯ ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 ดังนี้

1.1 การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ (แผนฯ) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 2 ประกอบด้วย (1) แผนก่อหนี้ใหม่ ปรับเพิ่มสุทธิ 275,870.08 ล้านบาท (จากเดิม 755,710.63 ล้านบาท เป็น 1,030,580.71 ล้านบาท) (2) แผนการบริหารหนี้เดิม ปรับเพิ่มสุทธิ 33,420.32 ล้านบาท (จากเดิม 2,008,893.74 ล้านบาท เป็น 2,042,314.06 ล้านบาท) และ (3) แผนการชำระหนี้ ปรับเพิ่มสุทธิ 54,555.17 ล้านบาท (จากเดิม 399,613.70 ล้านบาท เป็น 454,168.87 ล้านบาท)
โดยมีรายละเอียด

เช่น  การปรับเพิ่มวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน) จำนวน 269,000 ล้านบาท (2) การปรับเพิ่มวงเงินปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้รัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2571 จำนวน 50,000 ล้านบาท (3) การปรับเพิ่มวงเงินแผนการชำระหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 29,200 ล้านบาท และ (4) การปรับเพิ่มวงเงินแผนการชำระหนี้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำนวน 25,339.17 ล้านบาท เป็นต้น

1.2 การบรรจุโครงการพัฒนา โครงการ และรายการเพิ่มเติมในการปรับปรุงแผนฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 2 จำนวน 32 โครงการ/รายการ เช่น (1) โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย กปภ. สาขาพังงา-(ทับปุด) อำเภอเมืองพังงา-ทับปุด จังหวัดพังงา จำนวน 8.19 ล้านบาท (2) โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 จำนวน 795 ล้านบาท และ (3) ตั๋วเงินคงคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 40,000 ล้านบาท เป็นต้น

1.3 ให้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 2 แห่ง คือ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่มีสัดส่วนความสามารถในการหารายได้เทียบกับภาระหนี้ของกิจการ [Debt Service Coverage Ratio (DSCR)] ต่ำกว่า 1 เท่า สามารถกู้เงินและบริหารหนี้ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ปรับปรุง ครั้งที่ 2 โดยให้ ธพส. และ รฟท. รับความเห็นของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการด้วย รวมทั้งเห็นควรให้หน่วยงานที่บรรจุกรอบวงเงินกู้ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ปรับปรุง ครั้งที่ 2 เร่งรัดการดำเนินการตามแผนฯ ดังกล่าวด้วย

1.4 มอบหมายสำนักงบประมาณ (สงป.) ให้รับข้อสังเกตในประเด็นเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณในส่วนของต้นเงินและดอกเบี้ยของหนี้รัฐบาลและหนี้รัฐวิสาหกิจให้เพียงพอและสอดคล้องกับขนาดของมูลหนี้ที่ครบกำหนดชำระในปีงบประมาณนั้น โดยควรจัดสรรงบประมาณเพื่อชำระต้นเงินกู้เฉพาะในส่วนหนี้รัฐบาลให้อยู่ระหว่างร้อยละ 2.5 ถึงร้อยละ 4 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี

2. อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปกู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งอนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนในโครงการพัฒนา และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้กรอบวงเงินของการปรับปรุงแผนฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 2 และให้กระทรวงการคลัง (กค.) เป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เองก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ

แต่งตั้งสำคัญ ๆ

ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากประธานกรรมการเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป

ห็นชอบเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงกระทรวงพลังงาน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน

ดังนี้ 1.น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช รองปลัดกระทรวงสำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน

2.นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน

3.นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

เห็นชอบเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอรับโอน นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป