เศรษฐา รับแจกเงิน 10,000 ยังเป็นข้อกังขากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร

นายเศรษฐา ทวีสิน

นายกรัฐมนตรี แจงหลายหน แต่ยังมีข้อกังขาแจกเงินดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร เชื่อภาคอุตสาหกรรม SMEs เร่งสายพานการผลิต หากทราบวันที่จ่ายเงิน 

วันที่ 20 มิถุนายน 2567 ที่อาคารรัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 เป็นวันที่สอง โดยนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการอภิปรายของฝ่ายค้านที่ดูเหมือนยังไม่มั่นใจเรื่องโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของรัฐบาลว่า ตนคิดว่าได้ชี้แจงครบแล้วในเรื่องของดิจิทัลวอลเลต แต่คิดว่าเป็นข้อกังขามากกว่าว่าดิจิทัลวอลเลตจะมาช่วยเศรษฐกิจอย่างไร

ซึ่งเคยอธิบายไปแล้วหลายหน จะเป็นเงินใหม่เข้าไปในระบบประมาณ 5 แสนล้านบาท เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับภูมิภาค เพราะเราจำกัดให้ใช้ในพื้นที่ตามบัตรประชาชน ในระยะเวลาจำกัด 6 เดือน อย่างที่เรียนหากเราทราบวันที่แน่นอนที่เราจะมีการออกมา เชื่อว่าภาคอุตสาหกรรม เอสเอ็มอีทั้งหลายจะเร่งการผลิตเพื่อรองรับกำลังซื้อตรงนี้ที่จะเข้ามา ก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองกันว่าเงินก้อนโตนี้จะไปเป็นภาระของรัฐบาลในอนาคต โดยเฉพาะหลังปี 2570 นายกฯ กล่าวว่า ตรงนี้เชื่อว่าเราต้องบาลานซ์ระหว่างระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวด้วย การที่เรากระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นไปก่อนที่นโยบายอื่น ๆ จะเริ่มออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ

ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติที่จะเข้ามา และมีการจ้างงาน สร้างการผลิตด้วยการยกระดับอุตสาหกรรมไทยขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ระหว่างนั้นเมื่อเงินดิจิทัลวอลเลตมาช่วยแล้ว บวกกับการลงทุนจากต่างประเทศที่เข้ามา ก็จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) โตขึ้น ซึ่งจะทำให้การใช้หนี้เกิดขึ้นได้

Advertisment

เมื่อถามว่า นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์กับสํานักข่าวต่างประเทศไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ โดยมองว่าการเติบโตเศรษฐกิจยังขับเคลื่อนได้ ยังไม่จำเป็นต้องแจกเงินดิจิทัล นายกฯ กล่าวว่า ถือเป็นความเห็นต่างที่ต้องพูดคุยกันต่อไป

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าร่างงบประมาณอาจจะผ่านวาระ 1 แต่วาระ3 ที่มีเวลาพิจารณา 105 วัน อาจมีการเปลี่ยนแปลง และอาจไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ นายกฯกล่าวว่า เรื่องเหล่านี้ตามที่ตนบอก ความกังวล เราต้องให้เกียรติทุก ๆ คน โดยเฉพาะภาคนิติบัญญัติที่มีความไม่สบายใจ ขอใช้คำนี้ดีกว่า ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องตอบคำถามต่อไป ส่วนเรื่องจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ก็ต้องว่าไปตามกลไกตรงนั้น รัฐบาลก็มีหน้าที่ต้องตอบ

เมื่อถามว่ามีความเป็นห่วงถึงเงินดิจิทัลที่จะใช้เงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และยังไม่ได้ถามกฤษฎีกา เกรงว่าจะไม่ทันวันที่ 1 ตุลาคม นายกฯกล่าวว่า เชื่อว่ากระทรวงการคลังมีไทม์ไลน์ที่ชัดเจน และคงจะดำเนินการต่อไป

เมื่อถามว่า ในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ มีการปะทะกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ในคำว่าเจ๊งกับเจ๊ง มองตรงนี้อย่างไร โดยมีการลามไปถึงคำว่ายุบพรรคด้วย นายกฯ กล่าวว่า “ก็เป็นวาทกรรมที่เขาตอบโต้กันไป คำพูดอะไรที่มันรุนแรง อย่างที่บอกเจ๊งกับเจ๊งหรืออะไร ผมไม่อยากใช้คำพวกนี้ ถ้าฝ่ายหนึ่งแรงมาและอีกฝ่ายแรงกลับไปมันก็เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

Advertisment