ครม.เห็นชอบลดจำนวนถือครอบครองยาบ้าเพื่อเสพเหลือ 1 เม็ด

คารม พลพรกลาง
คารม พลพรกลาง

รัฐบาลไฟเขียว กฎกระทรวง กำหนดปริมาณยาเสพติด ครอบครองยาบ้าเพื่อเสพเหลือ 1 เม็ด

วันที่ 11 มิถุนายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….

ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 เพื่อกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (แอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีน) ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพใหม่ เพื่อให้การกำหนดปริมาณยาเสพติดดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ยาเสพติดปัจจุบัน ทั้งนี้ กฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567

มีผลให้ใช้บังคับเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม และมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการกำหนดปริมาณแอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีน และมีข้อร้องเรียนให้พิจารณาทบทวนปรับปรุง หรือยกเลิกกฎกระทรวงดังกล่าว รวมถึงปัญหาการตีความและการบังคับใช้

นายคารมกล่าวว่า เพื่อเป็นหลักให้กับผู้ปฏิบัติงานและเป็นแนวทางในการดำเนินการด้านยาเสพติดที่รัดกุม ชัดเจน และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน นายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวงตามข้อ 2.ให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย และหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย”

Advertisment

ที่ให้โอกาสผู้เสพได้พิจารณาให้เข้ารับการบำบัดรักษา ซึ่งต่อมา สธ.ได้แต่งตั้งคณะทำงานทบทวนกฎกระทรวง กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 โดยที่ประชุมคณะทำงานดังกล่าวได้ประเมินผลกระทบจากกฎกระทรวงดังกล่าว พบว่าเกิดผลกระทบในด้านสังคม กฎหมาย และการแพทย์ จึงได้มีมติเห็นชอบให้แก้ไขกฎกระทรวงดังกล่าวโดยแก้ไขเฉพาะปริมาณแอมเฟตามีน (ยาบ้า) และเมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์)

โดยกำหนดให้ปริมาณแอมเฟตามีนมีปริมาณไม่เกิน 1 หน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม และเมทแอมเฟตามีนมีปริมาณไม่เกิน 1 หน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม หรือในกรณีที่เป็นเกล็ด ผง ผลึก มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 20 มิลลิกรัม สธ.

จึงได้ยกร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ดังนี้ การมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ประเภท 2 หรือประเภท 5 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 ในปริมาณเล็กน้อย ตามที่กำหนดดังต่อไปนี้

ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ได้แก่ 1) แอมเฟตามิน มีปริมาณไม่เกินหนึ่งหน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกินหนึ่งร้อยมิลลิกรัม 2) เมทแอมเฟตามิน มีปริมาณไม่เกินหนึ่งหน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิดหนึ่งร้อยมิลลิกรัม หรือในกรณีที่เป็นเกล็ด ผง ผลึก มีน้ำหนักสุทธิไม่เกินยี่สิบมิลลิกรัม

Advertisment

“ร่างกฎกระทรวง ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 เพื่อกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยได้กำหนดให้แอมเฟตามีน (ยาบ้า) มีปริมาณไม่เกิน 1 เม็ด หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม (เดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 5 เม็ด หรือมีน้ำหนักสุทธิ ไม่เกิน 500 มิลลิกรัม) และกำหนดให้เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) มีปริมาณไม่เกิน 1 เม็ด

หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม หรือในกรณีที่เป็นเกล็ด ผง ผลึก มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 20 มิลลิกรัม (เดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 5 หน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม หรือในกรณีที่เป็นเกล็ด ผง ผลึก มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ศาล หรือผู้เกี่ยวข้อง มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้โอกาสแก่ผู้ที่ครอบครองยาเสพติด หรือวัตถุออกฤทธิ์ไว้เพื่อการเสพ โดยไม่ถือเป็นโทษความผิดร้ายแรง และได้รับการพิจารณาให้เข้ารับการบำบัดรักษา

โดยให้พิจารณาควบคู่กับพฤติกรรมอื่นที่เกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด หรือระดับความรุนแรงของการเสพยาเสพติดของบุคคลนั้นร่วมด้วย รวมทั้งเพื่อป้องกันการแพร่กระจายยาเสพติดและการใช้ยาเสพติดอันเป็นการอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในการจำแนกระหว่างผู้ค้ากับผู้เสพ ซึ่งการกำหนดปริมาณไม่เกิน 1 หน่วยการใช้ หรือ 1 เม็ด จะทำให้ผู้ค้ารายย่อยลดลง ถือเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดของยาเสพติดและลดการถือครองยาเสพติดเพื่อค้า