NETA V-II อัพเกรด เพิ่มออปชั่น จัดเต็ม

NETA V-II
คอลัมน์ : เทสต์คาร์
ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

ถือเป็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้า 100% (อีวี) ค่ายแรก ๆ ที่ขึ้นไลน์ผลิตในบ้านเราหลังจากที่เข้ามาดำเนินธุรกิจและใช้สิทธิประโยชน์ของ มาตรการอีวี 3.0 และ 3.5 บวกกับการวางแผนทางการตลาด ด้วยการวางโพซิชั่นให้ตัวเองเป็นสมาร์ทอีวี ซิตี้คาร์ ที่ราคาไม่แรง แถมยังตอบโจทย์กับลูกค้าบ้านเรา ทำให้ยอดขายถล่มทลายกับรถยนต์รุ่นแรก เนต้า วี (NETA V)

ล่าสุดเนต้า ส่ง เนต้า วี-ทู (NETA V-II) ออกสู่ตลาดบ้านเราเป็นโมเดลที่สอง หรือพูดให้ถูกคือ เป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ เพราะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมทั้งมีการลบเหลี่ยม ลบคม จากโมเดล NETA-V ทำให้รถมีความสดใสยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะหน้าตา รูปทรงโดยรวมแล้ว ต้องบอกว่า “น่ารัก” ยิ่งการเลือกใช้โทนสีใหม่เข้ามา อีก 2 สี คือ

สีฟ้าอ่อน Baby Blue และสีชานม Milk Tea ที่มีเฉพาะรุ่นสมาร์ท น่าจะถูกอกถูกใจใครหลาย ๆ คน

NETA V-II

Advertisment

มองจากภายนอก โดดเด่นด้วยไฟหน้ากลมโต LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน

กระจังหน้าได้รับการออกแบบใหม่ Starlight Grille มีการตกแต่งเส้นคาดโครเมี่ยม เพิ่มความรู้สึกเนี้ยบ และหรูหรา ด้วยความเป็นรถสไตล์ฟาสต์แบ็ก (Fastback) ช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ต

ขณะที่ด้านท้ายปรับใหม่ เนต้ายกตำแหน่งท้ายให้สูงขึ้น และปรับเปลี่ยนไฟท้าย LED แนวนอน พาดยาวซ้ายจดขวา แถมยังเพิ่มมีที่ปัดน้ำฝนหลัง มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้เเล้ว

เข้ามาที่ภายในห้องโดยสารนั้น ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก เบาะนั่งคู่หน้าปรับได้ 6 ทิศทาง เนต้าเพิ่มการปรับสูง-ต่ำ มาให้

Advertisment

หน้าจอกลางขนาด 14.6 นิ้วแนวตั้ง ขนาดใหญ่ มองง่าย อ่านค่าได้ชัดเจน

มีที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ และมาพร้อมระบบจ่ายกระแสไฟ V2L ให้กำลังสูงสุด 3,300 วัตต์ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนให้รถคันนี้กลายเป็นแหล่งจ่ายพลังงานได้ โดยเราสามารถเชื่อมต่อสายอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้

NETA V-II

ที่สำคัญ รถเนต้า วี-ทู (NETA V-II) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ประกอบจากโรงงานในประเทศไทยแล้ว

เพื่อไม่เป็นการรอช้า ธิราภร ย้อยแสง ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ เนต้า ออโต้ ไทยแลนด์ จัดกิจกรรมการทดสอบรถรุ่นนี้กันพอหอมปากหอมคอ โดยเลือกใช้ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นสถานที่ทดสอบ เพื่อเน้นหนักถึงสิ่งที่เพิ่มเข้ามาในเรื่องของ “ระบบความปลอดภัย” ที่เนต้าใส่เพิ่มเข้ามา เรียกว่า เป็น ADAS Level 2

ในช่วงแรกของการทดสอบ เป็นการดูสมรรถนะและความคล่องตัวของรถ ด้วยกำลังของมอเตอร์ที่ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตรนั้น เมื่อเทียบกับขนาดของตัวรถ ถือว่าจี๊ดจ๊าดใช้ได้ พวงมาลัยควบคุมได้ง่าย ที่สำคัญ ช่วงล่างค่อนข้างเฟิร์ม เเม้ว่าเราจะลองเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง

เนต้าเคลมไว้ว่า รถคันนี้เมื่อชาร์จเต็ม 100% วิ่งได้ระยะทาง 382 กม. และมีระบบชาร์จเร็ว จาก 30-80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่เมื่อถึงเวลาใช้งานจริงจะวิ่งได้เท่าไร คงต้องรอดูกันอีกที เพราะครั้งนี้เป็นการทดสอบในสนาม ที่ปัจจัยเเวดล้อมยังไม่ใช่การใช้งานจริง

เข้ามาที่สเตชั่นสอง กับการดูเรื่องของประสิทธิภาพความเเม่นยำของระบบความปลอดภัย ADAS Level 2 ที่ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน ขับตามคันหน้าได้โดยไม่ต้องแตะคันเร่ง เมื่อคันหน้าเบรก รถก็จะเบรกตาม และพร้อมเคลื่อนตัว เมื่อรถคันหน้าขับต่อไป ตรงนี้เรายังสามารถตั้งค่าความเร็วได้

นอกจากนี้ ยังได้ทดสอบในส่วนของระบบเบรกที่มีมาในรถคันนี้ ทันทีที่เกิดความเสี่ยง ระบบทำงานอยู่ แม้คันหน้าจะเปลี่ยนเลนกะทันหัน แล้วเจอรถอีกคันขวางหน้าอยู่ ระบบเบรกของเจ้าเนต้า วี-ทู นั้นสามารถเบรกได้อย่างนุ่มนวล และมั่นใจ

NETA V-II

เช่นเดียวกับระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบรักษาตัวรถให้อยู่ในเลน ระบบควบคุมความเร็วเมื่อความเร็วต่ำ ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ

สำหรับเนต้า วี-ทู มีสีให้เลือกมาตรฐาน 4 สี สีขาว White Storm สีเทา Midnight Gray สีชมพู Sakura Pink และสีเขียว Moonlight Green

ส่วน 2 สีใหม่ สีฟ้าอ่อน Baby Blue และสีชานม Milk Tea ที่มีเฉพาะรุ่นสมาร์ท

ส่วนราคาค่าตัวนั้นสตาร์ตที่รุ่นเริ่มต้น หรือรุ่น LITE นั้น ราคาอยู่ที่ 549,000 บาท

ส่วนใครที่อยากจะขยับเพิ่มออปชั่นขึ้นมาใช้ระบบความปลอดภัย ADAS Level 2 ต้องจ่ายเพิ่มอีก 20,000 บาท โดยรุ่นท็อป รุ่น SMART ราคา 569,000 บาท

ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยสำหรับคนที่กำลังมองหารถซิตี้คาร์ อีวี ไว้ใช้งานสักคัน

NETA V-II NETA V-II