มารุเบนิ ยักษ์เทรดดิ้งญี่ปุ่น ขนงบหมื่นล้านเยนลงทุนอาเซียน

ภาพประกอบจาก unsplash.com โดย jun rong loo
ภาพประกอบจาก unsplash.com โดย jun rong loo

มารุเบนิ ยักษ์เทรดดิ้งญี่ปุ่น ขนงบหมื่นล้านเยนเดินสายลงทุนด้านธุรกิจคอนซูเมอร์ อาหาร อุปกรณ์การแพทย์ และบันเทิงในอาเซียน หวังปั้นเสาหลักธุรกิจต้นใหม่

วันที่ 23 มิถุนายน 2567 สำนักข่าว นิคเคอิ เอเชีย รายงานว่า มารุเบนิ หนึ่งในบริษัทเทรดดิ้งสัญชาติญี่ปุ่นรายใหญ่ประกาศแผนขนเม็ดเงิน 2-3 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 4.6-6.9 พันล้านบาทต่อปีมาลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค อาทิ อาหาร อุปกรณ์การแพทย์ และบันเทิงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตามแผนนี้ มารุเบนิจะลงทุน 2-3 โครงการต่อปี ด้วยมูลค่าการลงทุนตั้งแต่ 1 หมื่นล้านเยน ไปจนถึง 2 หมื่นล้านเยน ทั้งในรูปแบบการเข้าซื้อหุ้นในกิจการเป้าหมายตั้งแต่หุ้นส่วนน้อย ไปจนถึงการเทกโอเวอร์ด้วยการซื้อหุ้นทั้งหมด 100% เน้นธุรกิจที่เป็นเทรนด์ของตลาดในปัจจุบันและในอนาคต

โดยจะเป็นการลงทุนผ่าน 2 บริษัทในเครือ คือ Marubeni Growth Capital (MGC) Asia บริษัทในเครือที่ก่อนตั้งในสิงคโปร์และบริษัท Marubeni Growth Capital (MGC) U.S. ที่ก่อตั้งในสหรัฐอเมริกา

สำหรับธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มารุเบนิ เล็งเข้าไปลงทุนจะเป็นกลุ่มที่เป็นเทรนด์ของตลาด หรือมีศักยภาพจะเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงในอนาคต ตัวอย่าง เช่น AIG Asia Ingredients บริษัทผู้ผลิตวัตถุดิบอาหาร-เครื่องดื่มในเวียดนาม ซึ่งเชี่ยวชาญด้านฟังก์ชั่นนอลฟู้ด-ดริ๊งค์ รับกับเทรนด์สุขภาพและความต้องการอาหารคุณภาพสูง

Advertisment

อีกบริษัทคือ Oneject ผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ในอินโดนีเซียที่ผลิตหลอดฉีดยา และชุดตรวจโรคต่าง ๆ เนื่องจากมีโอกาสที่ผู้ผลิตท้องถิ่นจะขึ้นมาเป็นซัพพลายเออร์แทนผู้ผลิตต่างชาติ นอกจากนี้ยักษ์เทรดดิ้งญี่ปุ่นยังเล็งลงทุนในธุรกิจด้านบันเทิง เช่น เกมอาเขต อีกด้วย

หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2023 MGC Asia เข้าทำธุรกิจแฟรนไชส์ Tim Hortons เชนร้านกาแฟสัญชาติแคนาดา ในสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

ส่วนในภูมิอื่น ๆ จะมุ่งเสาะหาและชิงเข้าลงทุนในธุรกิจหรือบริษัทที่มีศักยภาพจะเป็นกระแสฮิตใหม่ ตัวอย่างเช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ MGC U.S. เข้าลงทุนใน R.G. Barry บริษัทสัญชาติอเมริกันผู้ผลิตของใช้ในครัวเรือน เจ้าของแบรนด์ อย่าง Deearfoams รองเท้าแตะซักได้และโฟมรับแรงกระแทก รวมถึงมีแบรนด์ Planet A ที่โฟกัสรองเท้าซึ่งผลิตจากพลาสติกที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ

โทชิฮิโระ ฟุคุมุระ เจ้าหน้าที่บริหารของ มารุเบนิ อธิบายแนวคิดเบื้องหลังของยุทธศาสตร์นี้ว่า การค้นหาและชิงเข้าลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพจะเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงในสหรัฐนี้จะช่วยให้บริษัทล้ำหน้าคู่แข่งและได้เปรียบในการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาเทรนด์เกี่ยวกับผู้บริโภคมักจะเริ่มในตลาดสหรัฐอเมริกาก่อนจะแพร่หลายมายังเอเชียในเวลาต่อมา

Advertisment

ส่วนปัจจัยที่ผลักดันให้มารุเบนิ หันมาโฟกัสการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ ความต้องการเพิ่มอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ หรือ P/E ratio ซึ่งการมี อัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิสูงมักสะท้อนว่า บริษัทมีโอกาสเติบโตสูง

โดยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการสำหรับภาคครัวเรือนนั้นมักจะมีอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิสูงกว่าธุรกิจอื่น