ปัดฝุ่นเดินเรือ 3 ประเทศ “ตราด-สีหนุวิลล์” รับไฮซีซั่นปลายปีนี้

port

ความพยายามในการทำข้อตกลงร่วมกันของ 3 ประเทศ คือ เวียดนาม กัมพูชา ไทย ผ่าน “โครงการ Cambodia-Vietnam-Thailand Economic Corridor Coopertion Conference : CVTEC” เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การขนส่ง การท่องเที่ยวและไมซ์ ในพื้นที่แนวฝั่งทะเลระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) ผ่านไป 8 ปี ติดปัญหาอุปสรรคมากมาย

ล่าสุดในการประชุมนานาชาติ CVTEC 2024 ที่โรงแรมอัยยะปุระ เกาะช้าง จ.ตราด ที่ไทยเป็นเจ้าภาพภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. (TCEP) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และ จ.ตราด ทุกอย่างเริ่มลงตัว

นักท่องเที่ยวพุ่งสะพัด 3 พันล้าน

นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) กล่าวว่า กลไกไมซ์จะเป็นเครื่องมือในการผลักดัน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนและการยกระดับการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน โลจิสติกส์การท่องเที่ยวและไมซ์ ขึ้นในพื้นที่เส้นทางเชื่อมโยงชายฝั่งทะเลของ 3 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย 4 จังหวัด คือ ชลบุรี ระนอง จันทบุรี ตราด กัมพูชา 4 จังหวัด คือ เกาะกง สีหนุวิลล์ กำปอต แกป และเวียดนาม 2 จังหวัด คือ เกียนยาง และก่าเมา

ภูริพันธ์ บุนนาค
ภูริพันธ์ บุนนาค

ซึ่งแต่ละจังหวัดมีศักยภาพเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เชื่อมโยงกันได้ทั้งทางบกและทางเรือ รวมทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานในการรองรับการจัดประชุมสัมมนาที่ได้มาตรฐาน เป็นโอกาสที่จะทำตลาดในรูปแบบ 1 Marketing 3 Destinations รองรับกลุ่มนักเที่ยวคุณภาพสูงและนักเดินทางกลุ่มไมซ์ โดยจะมีการทดสอบการเดินเรือเส้นทาง CVTEC ปลายปี 2567

“หลังจากนี้ ทั้ง 3 ประเทศต้องนำเสนอรายงานกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้เตรียมพร้อมรับโครงการ ส่วนท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ จ.ตราด จะรายงานอธิบดีกรมเจ้าท่า และในเดือนสิงหาคม 2567 ทาง สสปน.จะมีการประชุมที่จังหวัดก่าเมา ประเทศเวียดนาม เพื่อศึกษาเส้นทาง ความพร้อมทางโครงสร้างพื้นฐาน การอำนวยความสะดวก ข้อกฎหมายต่าง ๆ เพื่อทำข้อตกลงร่วมกัน และภาคเอกชนจะประชุมกัน

Advertisment

ถ้าไม่มีอะไรติดขัด การทดลองเที่ยวปฐมฤกษ์เส้นทางจะเริ่มจากคลองใหญ่ จ.ตราด-สีหนุวิลล์ อาจจะไปถึงก่าเมา คาดว่าเส้นทางนี้ใช้ระยะเวลา 3-4 ปี จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้า-ออก ทาง จ.ตราด ประมาณ 300,000 คน และสร้างรายได้ปีละประมาณ 3,100 ล้านบาท” นายภูริพันธ์กล่าว

นำร่อง “ตราด-สีหนุวิลล์”

นางวิยะดา ซวง ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การท่องเที่ยวทางเรือที่จะเชื่อมโยงกันใน 3 ประเทศ หารือกันมาตั้งแต่ 2558 แต่ติดด้วยปัญหา อุปสรรคข้อจำกัดทางด้านกฎหมายของแต่ละประเทศ

มาถึงการประชุมครั้งนี้หารือกันว่า จะมีการเดินเรือจากสีหนุวิลล์ถึงท่าเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ ทั้งบริษัทเดินเรือและเอเย่นต์ทัวร์ 16 บริษัท หน่วยงานภาครัฐกัมพูชา เวียดนาม เห็นร่วมกันที่จะเปิดเส้นทางเชื่อมโยงให้เร็วที่สุด หลังจากนี้ผู้ประกอบการจะเร่งหารือกันในรายละเอียดเรื่องเส้นทาง ตารางการเดินเรือ อัตราราคาท่าเทียบเรือ การบริหารจัดการเข้า-ออก เพื่อเตรียมการเปิดเที่ยวปฐมฤกษ์ให้ได้ภายในปลายปี 2567

port

Advertisment

“ตอนนี้ผู้ประกอบการกัมพูชามีความพร้อมมาก บริษัท G.T.V.C.SPEEDBOAT ของกัมพูชา แนะนำเส้นทางการเดินเรือระหว่างเกาะต่าง ๆ ด้วย ขณะที่บริษัทยูเนี่ยนกรุ๊ป ผู้บริหารท่าเรือดาราซากอร์ จ.เกาะกง จะให้บริการแบบ One Stop Service สำหรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้า-ออก ส่วนท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ จ.ตราด จะทดลองใช้งาน

ขณะที่ผู้ประกอบการเรือของไทยมีความพร้อม ทั้งบริษัทที่เข้าไปให้บริการในท่าเรือดาราซากอร์-เกาะรง สีหนุวิลล์อยู่แล้ว และมีบริษัทเรือที่ให้บริการระหว่างเกาะต่าง ๆ ใน จ.ตราด สนใจลงทุน ซึ่งทั้ง 3 ประเทศต้องมาตกลงทำตลาดร่วมกัน อนาคตมีแผนขยายจากสีหนุวิลล์ไปถึงฟูก๊วกต่อไป” นางวิยะดากล่าว

กัมพูชา-เวียดนามขานรับ

นายลอง เดมองต์ (Mr.Long Dimanche) รองผู้ว่าราชการจังหวัดสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า 4 จังหวัดชายทะเลของกัมพูชามีความพร้อม โดยเฉพาะจังหวัดสีหนุมีท่าเทียบเรือ 3 แห่ง มีท่าเรือ AUTONOME DE SIHANOUKVILLE เพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ให้บริการสะดวก รวดเร็ว เรือที่เข้ามาต้องได้รับใบอนุญาตขาเข้า (Enter Permit) มีบริษัทชิปปิ้งเอเยนซี่บริการส่งเอกสารด้วย QR Code ผ่านลิงก์

หากส่งเอกสารนักท่องเที่ยวเข้ามาก่อน จะจัดเจ้าหน้าที่ไปให้บริการบนเรือก่อนเทียบท่า รวมทั้งพัฒนาระบบขนส่งทางบก รถไฟ เครื่องบิน เชื่อมกับเมืองอื่น ๆ การประชุมครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้มีนักท่องเที่ยวจากนานาชาติเข้ามาท่องเที่ยวใน CVTEC ต่อไปการค้า การลงทุนจะตามมา

นายเหวียน มิน ลูน (Mr.Nguyen Minh Luan) รองผู้ว่าราชการจังหวัดก่าเมา ประเทศเวียดนาม กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะทำข้อตกลงร่วมมือกันลงทุน การค้าและพัฒนาท่องเที่ยวในเส้นทางนี้ ก่าเมามีประชากร 1.5 ล้านคน มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ก๊วก ฮาเตียน เกียนยาง โดยก่าเมาเป็นอีก 1 แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในเส้นทาง CVTEC อยู่ตอนใต้ของประเทศ ล้อมรอบด้วยทะเล 3 ด้าน มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศอันดับต้น ๆ ของโลก อุดมด้วยอาหารซีฟู้ด

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เส้นทางเชื่อมโยงจากสีหนุวิลล์-ตราด (คลองใหญ่-เกาะกูด-เกาะหมาก-เกาะช้าง) เป็นเส้นทางที่มีศักยภาพที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจ มีธรรมชาติที่สวยงาม และสดใหม่มาก ๆ ตรงกับการท่องเที่ยวเพื่อความยั่งยืนตามเทรนด์ของโลก แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความพร้อมของภาคเอกชน

ซึ่งต้องมองถึงจุดคุ้มทุน จึงควรตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนร่วมกันทั้ง 3 ประเทศ ในอนาคตอาจได้นำเสนอเส้นทางนี้ในงานระดับโลก เช่น ITB ที่เบอร์ลิน ที่ฮ่องกง เชื่อว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจ 3 ประเทศเติบโตขึ้น

จี้รัฐแก้ท่าเรือคลองใหญ่

ด้าน นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าว่า จ.ตราดพร้อมสนับสนุนและผลักดันเพื่อให้เกิดเส้นทางการเดินเรือ เชื่อมโยง 3 ประเทศและอำนวยความสะดวกการข้ามแดน และจากการประชุมจะมีการทดสอบเส้นทาง ตราด-สีหนุวิลล์ และอนาคตจะเชื่อมถึงฟูก๊วก คาดว่าปี 2568 เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุม CVTEC จะมีความชัดเจนขึ้น เส้นทางนี้ไม่ใช่มองแค่เพียงจำนวนประชากรที่มีความได้เปรียบ-เสียเปรียบ กัมพูชา 20 ล้านคน เวียดนาม 98 ล้าน

หากแต่ต้องการให้เป็นหุ้นส่วนกันเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวจากประชากรโลก 8,000 ล้านคน ส่วนแบ่ง 5-10% เข้ามาในเส้นทาง CVTEC ให้โตขึ้น ขึ้นอยู่กับศักยภาพการรองรับของแต่ละประเทศ เริ่มต้นทำได้เร็วมากเท่าไร ยิ่งมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

“ทั้งนี้ ได้หารือกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคตราด เพื่อศึกษากฎหมายการจดทะเบียนเรือโดยสารเข้า-ออกต่างประเทศให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว และท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ จ.ตราด มีภาคเอกชนสนใจยื่นข้อเสนอขอเช่าจากกรมธนารักษ์ 1 ราย” นายณัฐพงษ์กล่าว

ผลการประชุมออกแบบการพัฒนาเส้นทางการเดินเรือทางน้ำ CVTEC ร่วมกันใน 6 ข้อ ดังนี้ 1) ภาคเอกชนต้องร่วมมือกันเพื่อพัฒนาเส้นทางตราด-สีหนุวิลล์-ฟูก๊วก ให้เกิดขึ้นจริง 2) ภาครัฐต้องเตรียมความพร้อมปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ระบบศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง 3) บริษัทเดินเรือต้องมีความพร้อม ในการเดินเรือไปต่างประเทศและขับเคลื่อน

4) การตลาดและการประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวคุณภาพสูง 5) ภาคเอกชนต้องมาคุยกันเพราะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่จะรู้ผลกำไร ขาดทุน และ 6) ต้องมีการประชุมต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนแผนระยะสั้น และดึงแผนระยะยาวมาเป็นระยะสั้น

“บุญศิริ-เสือดำโก” จ่อลงทุน

นางสาววิยะดา อมรเพชรกุล ผู้บริหารระดับสูง บริษัท บุญศิริเดินเรือ จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อปลายปี 2566 บริษัทเริ่มเดินเรือจากท่าเรือดาราซากอร์ไปเกาะรง ด้วยเรือไฮสปีด คาตามารัน มาตราฐานสูง แต่ยังต้องใช้ทางรถยนต์ด้วย

วิยะดา อมรเพชรกุล
วิยะดา อมรเพชรกุล

เนื่องจากสภาพถนนไม่สะดวก ใช้เวลาถึง 2.30 ชั่วโมง จากจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ไปท่าเรือดาราซากอร์ ต่อไปเกาะรง กัมพูชา ใช้เวลาเพียง 30 นาที หากเดินเรือทางน้ำ จากท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ไปท่าเรือดาราซากอร์ไปเกาะรง จะทำให้สะดวกรวดเร็วขึ้น

“สนใจเส้นทางใหม่ ตราด-สีหนุวิลล์ แต่ต้องรอดูรายละเอียดที่ชัดเจนของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา เพื่อคำนวณจุดคุ้มทุน ทั้งเส้นทางเดินเรือ ท่าเทียบเรือที่ให้ใช้บริการตามจุดต่าง ๆ อัตราค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และค่าบริหารจัดการเข้า-ออก ของนักท่องเที่ยวต่อหัว และการอำนวยความสะดวกในการใช้ท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ จ.ตราด

รวมทั้งระยะเวลาการเดินทาง ซึ่งต้องชัดเจน เพราะมีความสำคัญในการคำนวณต้นทุน การวางแผนทำตลาด เพราะลูกค้าจะเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายในการเดินเรือกับทางบก เพื่อเลือกราคาถูกและรวดเร็วกว่า แต่เส้นทางนี้จะถึงจุดคุ้มทุนได้ต้องใช้เวลา”

port

ผู้บริหารบริษัท เลียวพาสด์ ทรานสปอร์เทชั่น จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจบริการและเจ้าของเรือ “เสือดำโก” (Speedboat “Seudamgo”) ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวไปเกาะกูด เกาะหมาก จ.ตราด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มองเห็นศักยภาพของนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่จะเดินทางในเส้นทางเชื่อมโยง 3 ประเทศ มีความสนใจที่จะร่วมทำรูตการเดินเรือจากคลองใหญ่ จ.ตราด-สีหนุวิลล์

รวมทั้งในอนาคตที่จะเชื่อมถึงเกาะฟูก๊วก คาดว่าจะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่จะได้รับความนิยมในตลาดโลก เพราะเป็นเส้นทางธรรมชาติสมบูรณ์ มีความสดใหม่ สวยงาม และอยู่ไม่ไกลจาก กทม.มากนัก หากอนาคต CVTEC จะเชื่อมกับพัทยา ชลบุรี

“การทำการตลาดต้องทดสอบเส้นทางและสร้างการรับรู้ การเดินทางที่สะดวก โดยศักยภาพทางเรือบริษัทมีความพร้อมที่จะให้บริการอยู่แล้ว และมีเรือลำใหม่ขนาด 400 ที่นั่ง และขนาด 1,000 ที่นั่ง พร้อมที่จะให้บริการ แต่ทั้งนี้ต้องรอดูความชัดเจนในข้อกฎหมายของการเดินเรือ ข้อกำหนดต่าง ๆ ของทั้ง 3 ประเทศก่อน”