สยายปีก Health Link เชื่อมข้อมูลคนไข้โคราช ข้าม สาธารณสุข-กลาโหม

รมว.ดีอีเยี่ยมชมระบบ Health Link เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพชาวโคราช จาก รพ.ในสังกัดกระทรวงกลาโหม พร้อมดันเข้าสู่แผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ

วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีถึง 1 ใน 3 ของประเทศ การเชื่อมโยงข้อมูลสาธารณสุขเพื่อให้ประชาชนใช้บัตรประชาชนใบเดียว หรือแอป ThaID เข้ารับบริการจะสะดวกยิ่งขึ้น ตอนนี้โครงการเชื่อมโยงข้อมูล Health Link โดยสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ กระทรวงดีอี ได้เชื่อมกับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงกลาโหมแล้ว รวมถึงมหาดไทยที่ในอนาคตจะขยายไปรวม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล (รพ.สต.) เมื่อทั้งหมดเชื่อมกัน ประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุด

“ประชาชนในพื้นที่เวลาเข้าตรวจรักษาอาการเบื้องต้นจะเข้าไปที่ รพ.สต.ก่อน จึงมาโรงพยาบาลศูนย์ อย่างเช่นในโคราชที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารีก็จะมีคนมามาก การเชื่อมโยงข้อมูลให้ได้รับความสะดวกจะมีประโยชน์มาก”

รมว.ดีอีและคณะ ยังได้ลงพื้นที่ร้านหมอยาพลาซ่าเฮลธ์พลัส และโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ตำบลหนองไผ่ล้อม อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานโครงการระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ (Health Information Exchange : Health Link) และเยี่ยมชมการสาธิตการใช้ระบบ Health Link โดยมี รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) และนายแพทย์ธนกฤต จินตวร First Executive Vice President, BDI ให้การต้อนรับ พร้อมสั่งการดำเนินการแบบบูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อบรรจุแพลตฟอร์ม Health Link เข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานสำคัญในแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า กระทรวงดีอี เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ ที่จะช่วยยกระดับการรักษาให้กับประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมอบหมายให้สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI หน่วยงานในสังกัด วางแผนดำเนินการแบบบูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อบรรจุแพลตฟอร์ม Health Link เข้าเป็นส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ มุ่งขับเคลื่อนการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระดับชาติ

Advertisment

พร้อมทั้งกำหนดแผนปฏิบัติการและกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพที่สามารถนำไปใช้พัฒนาระบบบริการสุขภาพทั่วประเทศ โดยเริ่มจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต่อด้วยจังหวัดนครราชสีมา เพื่อขยายผลการใช้งานในพื้นที่ให้ครอบคลุมทุกหน่วยบริการ พร้อมผลักดันจังหวัดนครราชสีมา สู่การเป็นต้นแบบในการบูรณาการข้อมูลสุขภาพอย่างเป็นระบบ รวมถึงจัดทำแผนงบประมาณระยะยาว ให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด ยกระดับระบบสาธารณสุขไทยได้อย่างยั่งยืน

รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา และโรงพยาบาลค่ายสุรนารี สังกัดกองทัพบก กระทรวงกลาโหม เพื่อเร่งขยายการเชื่อมต่อระบบ Health Link ให้ครอบคลุมทุกหน่วยบริการ ทำให้ชาวโคราชเข้าสู่ระบบสาธารณสุขได้ทุกรูปแบบ

ตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าถึงข้อมูล โดยต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ป่วยเท่านั้น ข้อมูลดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ ทำให้แพทย์สามารถดูประวัติการรักษาข้ามสถานพยาบาลนอกสังกัด ลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยในการตรวจวินิจฉัยซ้ำซ้อน และสามารถได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ทันท่วงที

ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นแห่งที่ 2 ต่อจากกรุงเทพมหานครในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพกับหน่วยบริการทุกระดับ ส่งผลให้ประชาชนเกิดการรักษาแบบไร้รอยต่อ พร้อมพัฒนากลไกการใช้ประโยชน์จากข้อมูล Health Link อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การเชื่อมต่อข้อมูลที่มีความยั่งยืนและเกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกภาคส่วนต่อไป

Advertisment

ดร.พญ.สาวิตรี วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 9 นครราชสีมา กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง สปสช. และ BDI ในการใช้งานแพลตฟอร์ม Health Link ช่วยยกระดับการบริการทางการแพทย์ ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น การเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพแบบไร้รอยต่อจะช่วยกระจายการบริการไปยังสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิ ซึ่งช่วยลดภาระของโรงพยาบาลหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การรักษาและการส่งตัวผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลเป็นไปอย่างราบรื่น สอดรับตามนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่อีกด้วย

สำหรับโครงการ Health Link คือ แพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ ช่วยให้แพทย์ สามารถดูประวัติการรักษาได้ทันที สะดวก ง่าย ปลอดภัย พร้อมมีระบบการเชื่อมโยงข้อมูลด้วยกลไกการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น โดยยืนยันตัวตนของประชาชน และแพทย์ การเข้ารหัสข้อมูลและระหว่างจัดส่งข้อมูล รวมถึงมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบัน Health Link มีสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสมัคร Health Link ฟรีผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” หรือ “ThaID”