GenAI ดันคลาวด์สาธารณะ ทั่วโลกโต 20.4%

Generative AI

การมาถึงของ Generative AI (GenAI) ก่อให้เกิดกระแสความตื่นตัวทั้งในระดับบุคคล และองค์กรธุรกิจปัจจุบันอย่างมาก ว่ากันว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญ และสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับเดียวกับการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ต

การ์ทเนอร์ อิงค์ บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลกได้คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายบริการคลาวด์สาธารณะของผู้ใช้ทั่วโลก ในปี 2567 ว่าจะเพิ่มขึ้น 20.4% คิดเป็นมูลค่า 675.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 561 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2566 โดยระบุว่าการเติบโตนี้เป็นผลมาจากการขับเคลื่อนการใช้ Generative AI (GenAI) และการปรับปรุงแอปพลิเคชั่นให้ทันสมัย

สำหรับประเทศไทย การ์ทเนอร์ประเมินมูลค่าการใช้จ่ายของบริการคลาวด์สาธารณะขององค์กรในปีนี้จะสูงกว่า 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 30.1% จากปี 2566 โดยกลุ่มบริการ Infrastructure-as-a-service (IaaS) เติบโตสูงสุด เพิ่มขึ้น 39.6% ตามมาด้วย Platform-as-a-Service (PaaS) อยู่ที่ 26%

“ซิด ณาก” รองประธานฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์กล่าวว่า จะเห็นการเติบโตของการใช้จ่ายบริการคลาวด์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการใช้จ่ายส่วนใหญ่มาจาก GenAI เนื่องจากมีการสร้างโมเดลพื้นฐานเพื่อใช้งานทั่วไปอยู่ตลอดเวลา และการส่งมอบแอปพลิเคชั่นที่เปิดใช้งาน GenAI ที่ขยายตัวเพิ่มไปสู่วงกว้าง และการเติบโตที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องนี้จึงคาดว่าก่อนสิ้นทศวรรษนี้ยอดการใช้จ่ายผู้ใช้กับบริการคลาวด์สาธารณะจะสูงทะลุหนึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐ

และในปี 2567 คาดว่าบริการคลาวด์ทุกกลุ่มตลาดจะโตขึ้น โดยบริการ Infrastructure-as-a-Service (IaaS) จะโตสูงสุดที่ 25.6% ตามมาด้วยกลุ่มบริการ Platform-as-a-Service (PaaS) ที่ 20.6%

Advertisment

“IaaS ยังโตอย่างต่อเนื่องซึ่งสะท้อนถึงการปฏิวัติของ GenAI ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ โดยความต้องการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อฝึกอบรมโมเดล AI การอนุมานและการปรับแต่งอย่างละเอียดมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และจะยังเติบโตทวีคูณ อันส่งผลโดยตรงต่อการใช้บริการคลาวด์ในกลุ่ม IaaS”

ในขณะที่โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และบริการแพลตฟอร์มกำลังผลักดันการเติบโตของยอดการใช้จ่ายในระดับสูงสุด กลุ่มบริการ SaaS (Cloud Application Services) ยังคงเป็นกลุ่มที่มียอดการใช้จ่ายของผู้ใช้ใหญ่ที่สุดของตลาดคลาวด์

โดยในปี 2567 คาดว่าจะเติบโต 20% คิดเป็นมูลค่ารวม 247.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ

“ณาก” ทิ้งท้ายด้วยว่า มูลค่าการใช้จ่ายในกลุ่มบริการ SaaS ได้รับแรงหนุนจากการที่แอปพลิเคชั่นที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้ทันสมัยโดยผู้ขายซอฟต์แวร์อิสระเพื่อให้สามารถทำงานในรูปแบบ SaaS ได้ ขณะที่องค์กรต่าง ๆ ยังเพิ่มการใช้งานบนคลาวด์สำหรับการใช้งานเฉพาะ เช่น AI, แมชีนเลิร์นนิ่ง, Internet of Things และบิ๊กดาต้า ซึ่งทั้งหมดล้วนขับเคลื่อนการเติบโตให้กับกลุ่มบริการ SaaS

Advertisment