ราชกิจจาฯ ประกาศพระราชกฤษฎีกา เหรียญเฉลิมพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 10 ให้ประชาชนมีสิทธิประดับเหรียญได้

วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 - 12:45 น.

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกา เหรียญเฉลิมพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 มีตั้งแต่เหรียญเหรียญกษาปณ์ราคา 20 บาท จนถึงเหรียญทองคำราคา 20,000 บาท ให้บุคคล-ประชาชนทั่วไป มีสิทธิประดับเหรียญนี้ได้อย่างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือใช้ห้อยคอหรือใช้เป็นเข็มกลัดเสื้อโดยไม่มีแพรแถบก็ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา เหรียญเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ระบุหมายเหตุท้ายประกาศไว้ว่า เพื่อเฉลิมพระเกียรติและเผยแผ่พระเกียรติคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไพศาลทั่วขอบขัณฑสีมาและประจักษ์ต่อนานาประเทศ

และเพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมลันที่มีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ในอันที่จะแก้ไขและปัดเป่าบรรเทาปัญหาความทุกข์ร้อนของพสกนิกร รวมทั้งผู้อยู่ในพระบรมโพธิสมภารให้มีความร่มเย็นเป็นสุข เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรและความอุดมสมบูรณ์แก่แผ่นดิน

สมควรให้มีเหรียญเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

Advertisment

ส่วนรายละเอียดของเฉลิมพระเกียรตินี้มี ลักษณะเป็นเหรียญกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 มิลลิเมตร ทำด้วยเงิน ด้านหน้ากลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศจอมทัพ ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ทรงเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์และสายสร้อยจุลจอมเกล้า

ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ด้านหลังกลางเหรียญมีรูปตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉสิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗”

ด้านหน้าขอบนอกเหรียญเบื้องบนมีเลข ๑๐ ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ เบื้องหลังประดิษฐานพระนพปภูลมหาเศวตฉัตร เบื้องล่างด้านขวามีเลข ๗ ด้านซ้ายมีเลข ๒ ด้านหลังขอบนอกเหรียญมีห่วงสำหรับบุรุษใช้ห้อยกับแพรแถบกว้าง ๓๒ มิลลิเมตร พื้นของแพรแถบเป็นสีขาวนวล หมายถึงน้ำพระราชหฤทัยอันบริสุทธิ์ผุดผ่องประกอบไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตาที่เปี่ยมล้นที่พระองค์มอบสู่พสกนิกรของพระองค์

ทั้งสองข้างมีริ้วสีเหลืองข้างละ ๒ ริ้ว ริ้วสีเหลืองเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธิมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ และมีริ้วสีม่วงข้างละ ๑ ริ้ว ริ้วสีม่วงเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ที่ทรงเคียงคู่บุญบารมีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสำหรับสตรีใช้ห้อยกับแพรแถบดังกล่าวผูกเป็นรูปแมลงปอ

Advertisment

มาตรา 4 บุคคลมีสิทธิประดับเหรียญนี้ได้

มาตรา 5 การประดับเหรียญนี้ห้ประดับได้อย่างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หากไม่ประดับอย่างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จะประดับโดยใช้ห้อยคอหรือโดยใช้เป็นเข็มกลัดเสื้อโดยไม่มีแพรแถบก็ได้

มาตรา 6 ให้กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง มีหน้าที่เกี่ยวกับการสร้างและการจำหน่ายเหรียญเฉลิมพระเกียรตินี้

นอกจากนี้ราชกิจจานุเบกษายังเผยแพร่ กฎกระทรวงอีก 1 ฉบับ กำหนดลักษณะเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว โดยระบุ เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรจัดทำเหรียญกษาปณ์ ทองคำ ราคาสองหมื่นบาท หนึ่งชนิด เหรียญษาปณ์งิน ราคาหนึ่งพันบาท หนึ่งชนิด เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคาห้าสิบบาท หนึ่งชนิด และเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคายี่สิบบาท สองชนิด ออกใช้

เพื่อเป็นที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ในวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้