บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ชี้หุ้นไทยแกว่งในกรอบ 1,310-1,280 จุด จับตา 2 คดีการเมือง 3 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล 10 ก.ค. พิจารณาคดียื่นวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี มาตรการ Uptick คาดช่วยลดความผันผวนของตลาด ด้านคลังระบุความคืบหน้าจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ใหม่ ว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือน ชี้ 2 ทางเลือก จัดตั้งเป็นกองใหม่กองที่ 3 หรือระดมทุนมาใส่ไว้ในกองเดิม เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการจัดตั้ง
วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยว่า คาดดัชนี SET แกว่งในกรอบ โดยตลาดที่ขาดปัจจัยหนุน ทำให้กรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,305 จุด และ 1,310 จุด
- คลังเล็งประกาศลงทะเบียน แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน ทางรัฐ ก.ค.นี้
- ราชกิจจาฯ ประกาศพระราชกฤษฎีกา เหรียญเฉลิมพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 10 ให้ประชาชนมีสิทธิประดับเหรียญได้
- 10 อันดับมหาวิทยาลัยไทย ที่โดดเด่นด้านทันตแพทย์ ปี 2567
ขณะที่มาตรการ Uptick คาดช่วยลดความผันผวนของตลาด โดยมีแนวรับ 1,290 จุด เป็นจุดรองรับ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้มีความเสี่ยงด้านดาวน์ไซด์ได้ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,280 จุด
“ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศ ซึ่งในวันที่ 3 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการนัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล และวันที่ 10 ก.ค. จะมีการนัดพิจารณาคดียื่นวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ มิ.ย. จีน อียู และสหรัฐ ซึ่งคาดจะออกมาทรงตัวถึงขยายตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำเลือกซื้อ”
ประเด็นสำคัญช่วงนี้
1.ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ มิ.ย. โดย ISM ปรับลดลงสู่ระดับ 48.5 ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง พ.ค. ลดลง 0.1% MOM สวนทางตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.2% MOM
2.ศาลฎีกาสหรัฐระบุ โดนัลด์ ทรัมป์ และอดีตประธานาธิบดีคนอื่น ๆ ได้รับการคุ้มครองบางส่วนจากการดำเนินคดีทางอาญา ถือเป็นชัยชนะทางกฎหมายครั้งสำคัญของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน
3.ผลการเลือกตั้งรอบแรกของฝรั่งเศส พรรคแนวร่วมแห่งชาติ (RN) พรรคขวาจัดชนะการเลือกตั้ง แต่ยังไม่สามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภา ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งรอบ 2 ในวันที่ 7 ก.ค.
4.กระทรวงพลังงานเตรียมประชุมศึกษาแผนการผลิตไฟฟ้าตาม PDP ฉบับใหม่ (PDP2024) ที่ปรับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. จากปัจจุบันที่ 29% เหลือ 17% ในช่วงปลายแผนปี 2580 ต้องไปทบทวนรูปให้หมาะสมกับความสามารถในการลงทุนของ กฟผ.
5.BOI ระบุปัจจุบันมี 37 โครงการ Data Center และ Cloud Service ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมูลค่ากว่า 9.86 หมื่นล้านบาท โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศยุทธศาสตร์การลงทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของ AI
6.กระทรางการคลังระบุความคืบหน้าจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ใหม่ว่า จะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือนนี้ โดยขณะนี้มี 2 ทางเลือกคือ จัดตั้งเป็นกองใหม่กองที่ 3 หรือระดมทุนมาใส่ไว้ในกองเดิม เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการจัดตั้ง
7.วานนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯบังคับใช้ Uptick Rule เป็นวันแรก มูลค่า Short Sales เหลือ 1,196 ล้านบาท ลดลงจาก มิ.ย. ที่มีมูลค่า Short Sales เฉลี่ยวันละ 6,946 ล้านบาท
ธีมลงทุน สัปดาห์นี้
สำหรับการลงทุนในช่วงสัปดาห์นี้ แนะนำ 4 ธีมหลักดังนี้
1.หุ้นที่คาดจะได้อานิสงส์ Cover Short หลัง ตลาดหลักทรัพย์ฯเริ่มใช้มาตรการ Uptick ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2567 และเป็นหุ้นพื้นฐานดีมี ESG Rating ระดับ A-AAA เลือก HANA, TOP, BEM, MINT, OSP, BBL, SCGP, AOT
2.หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากแผนปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาท และลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี เลือก ADVANC, CPALL, BDMS, BBL, BEM
3.หุ้น Global Play ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง และได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่แน่นอน เลือก KCE, SCGP, TU, MINT (ทั้งนี้ KCE, SCGP แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว หลังมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาอ่อนแอ)
4.สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองว่ายังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้น นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงจึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP