หุ้นไทยแกว่งในกรอบ 1,310-1,280 จุด จับตา 2 คดีการเมือง

เทรนด์หุ้นไทย

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ชี้หุ้นไทยแกว่งในกรอบ 1,310-1,280 จุด จับตา 2 คดีการเมือง 3 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล 10 ก.ค. พิจารณาคดียื่นวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี มาตรการ Uptick คาดช่วยลดความผันผวนของตลาด ด้านคลังระบุความคืบหน้าจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ใหม่ ว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือน ชี้ 2 ทางเลือก จัดตั้งเป็นกองใหม่กองที่ 3 หรือระดมทุนมาใส่ไว้ในกองเดิม เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการจัดตั้ง

วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยว่า คาดดัชนี SET แกว่งในกรอบ โดยตลาดที่ขาดปัจจัยหนุน ทำให้กรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,305 จุด และ 1,310 จุด

ขณะที่มาตรการ Uptick คาดช่วยลดความผันผวนของตลาด โดยมีแนวรับ 1,290 จุด เป็นจุดรองรับ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้มีความเสี่ยงด้านดาวน์ไซด์ได้ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,280 จุด

“ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศ ซึ่งในวันที่ 3 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการนัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล และวันที่ 10 ก.ค. จะมีการนัดพิจารณาคดียื่นวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ มิ.ย. จีน อียู และสหรัฐ ซึ่งคาดจะออกมาทรงตัวถึงขยายตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำเลือกซื้อ”

Advertisment

ประเด็นสำคัญช่วงนี้

1.ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ มิ.ย. โดย ISM ปรับลดลงสู่ระดับ 48.5 ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง พ.ค. ลดลง 0.1% MOM สวนทางตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.2% MOM

2.ศาลฎีกาสหรัฐระบุ โดนัลด์ ทรัมป์ และอดีตประธานาธิบดีคนอื่น ๆ ได้รับการคุ้มครองบางส่วนจากการดำเนินคดีทางอาญา ถือเป็นชัยชนะทางกฎหมายครั้งสำคัญของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน

3.ผลการเลือกตั้งรอบแรกของฝรั่งเศส พรรคแนวร่วมแห่งชาติ (RN) พรรคขวาจัดชนะการเลือกตั้ง แต่ยังไม่สามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภา ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งรอบ 2 ในวันที่ 7 ก.ค.

4.กระทรวงพลังงานเตรียมประชุมศึกษาแผนการผลิตไฟฟ้าตาม PDP ฉบับใหม่ (PDP2024) ที่ปรับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. จากปัจจุบันที่ 29% เหลือ 17% ในช่วงปลายแผนปี 2580 ต้องไปทบทวนรูปให้หมาะสมกับความสามารถในการลงทุนของ กฟผ.

Advertisment

5.BOI ระบุปัจจุบันมี 37 โครงการ Data Center และ Cloud Service ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมูลค่ากว่า 9.86 หมื่นล้านบาท โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศยุทธศาสตร์การลงทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของ AI

6.กระทรางการคลังระบุความคืบหน้าจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ใหม่ว่า จะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือนนี้ โดยขณะนี้มี 2 ทางเลือกคือ จัดตั้งเป็นกองใหม่กองที่ 3 หรือระดมทุนมาใส่ไว้ในกองเดิม เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการจัดตั้ง

7.วานนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯบังคับใช้ Uptick Rule เป็นวันแรก มูลค่า Short Sales เหลือ 1,196 ล้านบาท ลดลงจาก มิ.ย. ที่มีมูลค่า Short Sales เฉลี่ยวันละ 6,946 ล้านบาท

ธีมลงทุน สัปดาห์นี้

สำหรับการลงทุนในช่วงสัปดาห์นี้ แนะนำ 4 ธีมหลักดังนี้

1.หุ้นที่คาดจะได้อานิสงส์ Cover Short หลัง ตลาดหลักทรัพย์ฯเริ่มใช้มาตรการ Uptick ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2567 และเป็นหุ้นพื้นฐานดีมี ESG Rating ระดับ A-AAA เลือก HANA, TOP, BEM, MINT, OSP, BBL, SCGP, AOT

2.หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากแผนปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาท และลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี เลือก ADVANC, CPALL, BDMS, BBL, BEM

3.หุ้น Global Play ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง และได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่แน่นอน เลือก KCE, SCGP, TU, MINT (ทั้งนี้ KCE, SCGP แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว หลังมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาอ่อนแอ)

4.สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองว่ายังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้น นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงจึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP