SCGP ทุ่มเงิน 146 ล้าน ซื้อหุ้น 90% “วีอีเอ็ม (ไทยแลนด์)” ต่อยอดธุรกิจ Healthcare

SCGP

“เอสซีจี แพคเกจจิ้ง” ทุ่มเงิน 146 ล้าน ซื้อหุ้น 90% “วีอีเอ็ม (ไทยแลนด์)” ผู้ผลิตชิ้นส่วนสมรรถนะสูงจากการฉีดขึ้นรูปพอลิเมอร์ หวังต่อยอดธุรกิจ Healthcare

วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC ได้เปิดเผยข้อมูลเรื่องการเข้าลงทุนใน บริษัท วีอีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด ต่อยอดธุรกิจ Healthcare Packaging and Supplies ตามกลยุทธ์ของบริษัท ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ ธุรกรรมดังกล่าวเป็นการได้มาซึ่งบริษัทย่อยมีขนาดของรายการเท่ากับร้อยละ 0.03 ของมูลค่า ของสินทรัพย์รวมตามงบการเงินรวมของ SCC สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 เมื่อรวมรายการดังกล่าวกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนก่อนการทำรายการตามหนังสือนี้จะเท่ากับร้อยละ 0.16 ของสินทรัพย์รวมบริษัท

ดังนั้น การรายงานสารสนเทศข้างต้นจึงไม่เข้าข่ายที่จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ และไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCGP กล่าวว่า SCGP Solutions (Singapore) Pte. Ltd. หรือ SCGPSS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGP ถือหุ้นทั้งหมด ได้เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 90% ใน บริษัท วีอีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ VEM-TH ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนสมรรถนะสูงจากการฉีดขึ้นรูปพอลิเมอร์ โดยเงินลงทุนสำหรับการเข้าถือหุ้น 90% จะรวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 146.2 ล้านบาท

Advertisment

โดย SCGP จะเริ่มแสดงผลประกอบการของ VEM-TH ในงบการเงินรวมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 โครงการควบรวมกิจการ (Merger and Partnership : M&P) ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายและสร้างการเติบโตธุรกิจบรรจุภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการของ SCGP ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มสังคมสูงอายุความสนใจด้านสุขภาพที่มากขึ้นของประชากรโลก

โดย VEM-TH มีฐานการผลิตอยู่ที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย และมีฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมการแพทย์ การบิน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ซึ่งครอบคลุมตลาดหลากหลายประเทศ เช่น ไทย สหรัฐอเมริกา จีน เป็นต้น

โดย M&P ข้างต้นจะเสริมศักยภาพให้ SCGP ด้วยมาตรฐานของ VEM-TH ในด้านระบบบริหารงาน คุณภาพสำหรับเครื่องมือแพทย์ (ISO 13485) และห้องปลอดเชื้อที่ผ่านมาตรฐานการรับรองความสะอาดของ อากาศ (Cleanroom) Class 8 และ Class 7 ผ่านกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและแม่นยำในทุกขั้นตอน

รวมถึงการพัฒนาแบบพิมพ์ซึ่งจะต่อยอดให้ SCGP สามารถผลิตสินค้ากลุ่มนี้ในประเทศไทย เพิ่มเติมจากการผลิต ของ Deltalab S.L. และ Bicappa Lab S.r.L ในประเทศสเปนและอิตาลี ตามลำดับ เพื่อรองรับการเติบโต ของความต้องการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ในอนาคต

Advertisment

ทั้งนี้ การผนึกกำลังทางธุรกิจกับผู้ถือหุ้นเดิมของ VEM-TH ในด้านการผลิต การขาย และการตลาด จะช่วยเสริมให้ SCGP มีเครือข่ายลูกค้าในต่างประเทศที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ปัจจุบัน VEM-TH มีสายการผลิตสินค้าทั้งสิ้น 30 สายการผลิต ซึ่งสามารถผลิตสินค้าได้กว่า 59 ล้านชิ้นต่อปี โดย ณ สิ้นปี 2566 VEM-TH มีรายได้ประมาณ 302 ล้านบาท และมีสินทรัพย์อยู่ที่ 455 ล้านบาท (ข้อมูลเพิ่มเติมของ VEM-TH มีปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ : https://vem-medical.com/)

SCGP มุ่งมั่นที่จะดำเนินตามวัตถุประสงค์ระยะยาวของบริษัทในด้านการพัฒนาบุคลากรและขยายธุรกิจเพื่อโลกที่ดีขึ้น ผ่านการนำเสนอสินค้าและนวัตกรรมที่หลากหลาย ได้แก่ บรรจุภัณฑ์จากเยื่อและ กระดาษ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูง วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการ ตลอดจนให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นอื่น ๆ และพร้อมเป็นพันธมิตรเพื่อขยายการเติบโตทางธุรกิจ Healthcare Packaging and Supplies ตามกลยุทธ์ของ SCGP (ข้อมูลเพิ่มเติมของ SCGP มีปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ : www.SCGPackaging.com)