บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ชี้หุ้นไทยเปราะบาง-ฟื้นจำกัด สัญญาณยังเป็นลบ มองแนวต้าน 1,310 จุด แนวรับ 1,280 จุด หวังเกณฑ์ Uptick เริ่มบังคับใช้วันนี้ช่วยลดความผันผวนตลาด นักลงทุนส่วนใหญ่รอความชัดเจนปัจจัยการเมืองในประเทศ 3 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล 10 ก.ค. พิจารณาคดียื่นวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี แนะ 4 ธีมน่าลงทุน
วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยว่า มาตรการ Uptick ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ คาดช่วยลดความผันผวนของตลาดได้บ้าง
- หวยออกงวด 1 ก.ค. ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล-สถิติหวยย้อนหลัง 10 ปี
- หวยออกงวด 1 ก.ค. 67 ถ่ายทอดสด ตรวจผลรางวัล ผลสลากกินแบ่งฯ วันนี้
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 1 ก.ค. 2567
อย่างไรก็ตาม สัญญาณโดยรวมยังเป็นลบ และตลาดที่ยังขาดปัจจัยหนุน รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) ไหลออก ทำให้คาดการฟื้นตัวยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,310 จุด และ 1,320 จุด ตามลำดับ ขณะที่ยังมีความเสี่ยงด้านดาวน์ไซด์ โดยมีแนวรับอยู่ที่ 1,290 จุด และ 1,280 จุด
“ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศ ซึ่งในวันที่ 3 ก.ค. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการนัดพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล และวันที่ 10 ก.ค. จะมีการนัดพิจารณาคดียื่นวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ มิ.ย. จีน อียูและสหรัฐ ซึ่งคาดจะออกมาทรงตัวถึงขยายตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำเลือกซื้อ”
ประเด็นสำคัญ ๆ ช่วงนี้ ประกอบด้วย 1. CNN ระบุผลสำรวจชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์การแสดงวิสัยทัศน์ 67% ให้โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นฝ่ายชนะ มีเพียง 33% ที่ให้ โจ ไบเดน เป็นผู้ชนะ เนื่องจากมีการพูดที่ติดขัด และขาดความต่อเนื่อง
2. สหรัฐรายงานดัชนี Headline PCE พ.ค. +2.6% YOY และ 0.0% MOM ส่วนดัชนี Core PCE พ.ค. +2.6% YOY และ 0.1% MOM ตามตลาดคาด
3. USDA รายงานสต๊อกข้าวโพด ถั่วเหลือง และข้าวสาลี ณ สิ้นสุดวันที่ 1 มิ.ย. อยู่ในระดับสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะสต๊อกข้าวโพด ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี
4. จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต มิ.ย. ทรงตัวเท่ากับ พ.ค. 67 ขณะที่ 5 เดือนแรกปีนี้ รายได้และกำไรของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศเติบโต 11.6% YOY และ 16.3% YOY ตามลำดับ
5. ซาอุดีอาระเบียอาจปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ขายให้กับภูมิภาคเอเชียเป็นเดือนที่ 2 ในเดือน ส.ค.นี้ ตอกย้ำถึงแรงกดดันที่ผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่ม OPEC เผชิญ ขณะที่อุปทานน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC ยังคงเพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ
6. สศอ. รายงานดัชนี MPI พ.ค. 2567 หดตัว 1.54% ส่งผลให้ 5 เดือนแรกปีนี้หดตัว 2.08% สะท้อนปัญหาขาดกำลังซื้อในประเทศ หนี้ครัวเรือนและดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง ขณะที่ มิ.ย. 67 จับตาเศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัว
7. สนค. ระบุ 5 เดือนแรกปีนี้ ไทยส่งออกทูน่ากระป๋อง 2.21 แสนตัน เพิ่มขึ้น 19.39% YOY ยังคงเป็นประเทศส่งออกทูน่ากระป๋องอันดับ 1 ของโลก หนุนจากปริมาณทูน่าที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนลดลง ความต้องการเพิ่มขึ้น ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ทำให้มีการสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้น
สำหรับภาพการลงทุนในสัปดาห์นี้ มองตลาดหุ้นไทยยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศและปัจจัยหนุนใหม่ ๆ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “เลือกซื้อ” ใน 4 ธีมดังนี้
1. หุ้นที่คาดจะได้อานิสงส์ Cover Short หลัง ตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มใช้มาตรการ Uptick ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2567 และเป็นหุ้นพื้นฐานดีมี ESG Rating ระดับ A-AAA เลือก HANA, TOP, BEM, MINT, OSP, BBL, SCGP, AOT
2. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากแผนปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินเป็น 3 แสนบาท และลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี เลือก ADVANC, CPALL, BDMS, BBL, BEM
3. หุ้น Global Play ที่คาดผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่จะขึ้นกับการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ไม่แน่นอน เลือก KCE, SCGP, TU, MINT (ทั้งนี้ KCE, SCGP แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว หลังมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาอ่อนแอ)
4. สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP