EA เทรดสนั่น หุ้นดิ่งหนัก 12.79% โบรกฯเปิดสาเหตุราคาต่ำประวัติการณ์

money111

หุ้น EA เทรดสนั่น ขึ้นแท่นมูลค่าซื้อขายสูงสุดของวันนี้ พบหุ้นดิ่งหนัก 12.79% เหลือราคา 15 บาท/หุ้น นักวิเคราะห์ เปิดสาเหตุราคาต่ำประวัติการณ์ ชี้กังวล “กำไรไตรมาส 2 อ่อนแอ-หุ้นกู้โรลโอเวอร์ไตรมาส 3-สัญญา Adder ทยอยหมดอายุลง” คงคำแนะนำ “เทรดดิ้ง” ไม่ต้องรีบเข้าลงทุน

วันที่ 27 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA วันนี้พบว่าแกว่งแดนลบตลอดทาง โดยทดสอบระดับต่ำสุดของวันที่ราคา 14.90 บาท ลดลง 2.3 บาท หรือติดลบ 13.37% เทียบจากราคาวันก่อนหน้า และปิดตลาดหุ้นวันนี้ ยืนที่ราคา 15 บาท ลดลง 2.20 บาท หรือติดลบ 12.79% เป็นหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวันนี้ มูลค่ารวม 2,924 ล้านบาท

นักวิเคราะห์รายหนึ่ง กล่าวว่า สาเหตุที่หุ้น EA ราคาร่วงแรงมากในวันนี้ และต่ำเป็นประวัติการณ์ หลัก ๆ มาจาก 1.แนวโน้มกำไรงวดไตรมาส 2/2567 ที่ยังอ่อนแอ 2.ความกังวลเกี่ยวกับการโรลโอเวอร์หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในช่วงไตรมาส 3/2567 รวมไปถึง 3.ความกังวลเกี่ยวกับสัญญาส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ที่ทยอยหมดอายุลง และ EA ยังหาธุรกิจใหม่มาชดเชยกระแสเงินสดไม่ได้

โดยเบื้องต้นคาดกำไรปกติอยู่ที่ระดับ 800-900 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า (QOQ) ตามปัจจัยฤดูกาลของโครงการลมและค่าใช้จ่าย SG&A (EA มีรอบการจ่ายโบนัสพนักงานในไตรมาส 2) และลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) จากฐานที่สูงในปีก่อนตามค่า Ft และปริมาณการส่งมอบรถ EV ที่ลดลง หลังกลุ่มลูกค้ามีการชะลอคำสั่งซื้อ

Advertisment

นอกจากนี้ได้มีการปรับกำไรปี 2567-2568 ลงเพื่อให้มีความรัดกุมมากขึ้น โดยปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลงเป็น 4.593 ล้านบาท ลดลง 36% YOY จากการปรับสมมุติฐานราคาขาย EV ลงเป็น 5 ล้านบาท (เดิม 5.8 ล้านบาท) เพื่อให้มีความรัดกุมมากขึ้น และปรับสมมุติฐานอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็น 5.6% (เดิม 5%) เพื่อสะท้อนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า และการถูกปรับลด Credit Rating ลงเป็น BBB+ (Negative Outlook) จากเดิม A- (Negative Outlook) และปรับประมาณการกำไรปี 2568 ลงเป็น 4.818 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YOY จากการปรับสมมุติฐาน Utilization Rate ของโรงงานแบตเตอรี่ลงเป็น 55% (เดิม 70%) เพื่อให้มีความรัดกุมมากขึ้น และการปรับต้นทุนทางการเงินขึ้น (เช่นเดียวกับปี 2567)

ทั้งนี้ผลจากการปรับประมาณการและการปรับเงินจากการลงทุนและเงินจากการกู้ยืม (WACC) ที่ใช้ประเมินมูลค่าธุรกิจโรงไฟฟ้าและแบตเตอรี่ เป็น 8.3% (เดิม 6.2%) ส่งผลให้ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 22.20 บาท/หุ้น มีอัพไซด์เพียง 11% โดยในระยะสั้น-กลาง คาดการฟื้นตัวของราคาหุ้นจะยังคงถูกจำกัดจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มลดลง YOY ต่อเนื่อง รวมถึงการที่หุ้นยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่

จึงคงคำแนะนำ “เทรดดิ้ง” ไม่ต้องรีบเข้าลงทุน มองว่าหุ้นจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งหากธุรกิจ EV สามารถส่งมอบรถได้ในระดับ 700-1,000 คัน หรือบริษัทสามารถลงทุนในธุรกิจใหม่ที่สามารถชดเชยผลกระทบจากการหมดอายุของ Adder