ส่อง 5 โบรกฯ ชี้เป้าหุ้นเด่น รับประโยชน์กองทุน TESG เกณฑ์ใหม่ จูงใจขึ้น

TESG

ส่อง 5 โบรกฯ คัดหุ้นเด่น รับประโยชน์กองทุน TESG เกณฑ์ใหม่ ลดหย่อนภาษี 3 แสนล้าน ระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปี คาดมีเม็ดเงินซื้อสุทธิกองทุนใหม่ราว 7.8 หมื่นล้านบาทต่อปี

วันที่ 26 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แถลงมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจ คือ การปรับเกณฑ์กองทุน Thai ESG ใหม่ โดยขยายวงเงินลงทุนลดหย่อนภาษีสูงสุดจากปัจจุบันไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นไม่เกิน 3 แสนบาท และลดระยะเวลาถือครองเหลือ 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ จากเดิม 8 ปีนับจากวันที่ซื้อ

รวมถึงคาดว่าจะมีหุ้นที่สามารถลงทุนได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 200 หุ้น จากเงื่อนไขเดิมที่มีจำนวนหุ้นราว 128 หุ้น ซึ่งจะรวมได้กว่า 300 หุ้น โดยคาดว่าจะสามารถเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ใน 2 สัปดาห์นี้ จากข้อมูลข้างต้น นักวิเคราะห์มีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า จะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ช่วยหนุนดัชนีให้ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงคาดว่ามีหุ้นจะได้รับอานิสงส์เชิงบวก

บล.เมย์แบงก์ คาดหนุน SET Index ได้ระดับ 5-8%

โดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) คาดการณ์กลุ่มหุ้นที่ได้รับเม็ดเงินการลงทุนจากปัจจัยดังกล่าว หลังกระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งถือว่าเป็นบวกต่อมาตรการ TESG ใหม่นี้ โดยเฉพาะประเด็นการลดระยะเวลาการถือครองที่สั้นลง คาดเม็ดเงินเข้ากอง TESG ใหม่อยู่ในช่วง 3-4 หมื่นล้านบาทเทียบกับ LTF ที่ซื้อในช่วง 4.5-7.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการซื้อสุทธิสูงสุดของ TESG ใหม่ที่ 3 แสนบาท ต่ำกว่า LTF ที่ 5 แสนบาท

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการซื้อ LTF ในอดีตพบว่าผู้มีรายได้มากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี มีการซื้อ LTF เฉลี่ย 1.5 แสนบาทต่อราย วงเงินดังกล่าวจึงถือเป็นการประเมินแบบ Conservative

Advertisment

ทั้งนี้ คาดผลของเม็ดเงิน TESG ใหม่ 3-4 หมื่นล้านบาทและเข้าตลาดหุ้นในช่วง 2.5-4 หมื่นล้านบาท ช่วย หนุน SET Index ได้ระดับ 5-8% โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการ TESG ใหม่ ประเมินใน 2 แง่มุม 1.หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเม็ดเงิน TESG ไหลเข้าในระดับสูงชอบ CPALL-GULF-ADVANC-CPN และ MINT 2.หุ้นที่คาดเม็ดเงินไหลเข้าเทียบกับมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูง SABINA-CK และ ERW

บล.กรุงศรี คาดเม็ดเงินไหลเข้า 7.8 หมื่นล้านต่อปี

ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี รายงานว่า ให้มุมมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้น เนื่องจากประเมินอิงจากยอดซื้อ LTF 3 ปี (2560-2562) ที่มียอดซื้อเฉลี่ยปีละ 6.8 หมื่นล้านบาท และโครงสร้างจำนวนผู้เสียภาษีในปี 2557 (ข้อมูลล่าสุดที่มีการเปิดเผยตามหน้าข่าว) คาดว่าจะมีเม็ดเงินซื้อสุทธิกองทุนใหม่นี้อยู่ที่ราว 7.8 หมื่นล้านบาทต่อปี ส่วนตลาดคาดงวด 5 เดือนที่เหลือของปี 2567 ที่ 2.5-3 หมื่นล้านบาท

ศักยภาพเม็ดเงินของกองทุน Thai ESG ใหม่สูงกว่าเม็ดเงินสมัย LTF เนื่องจากให้สิทธิลดหย่อนที่เพิ่มขึ้นมาที่ 30% เมื่อเทียบกับ LTF ที่ 15% ทำให้ผู้ที่เสียภาษีในระดับกลาง (เงินได้ต่อปี 7.5 แสน-2 ล้านบาท) ซึ่งเป็นสัดส่วนใหญ่ของจำนวนผู้เสียภาษีมีทางเลือกที่จะออมเงินผ่านกองทุนลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้หุ้นในดัชนี SETESG ที่เด่นสุด ได้แก่ BTS, SCC, IVL, CPN, GULF, AOT, MTC และ CPALL เป็นต้น

บล.หยวนต้า คัด 9 หุ้นน่าลงทุน

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาด SET Index จะตอบรับเชิงบวก ขึ้นทดสอบ 1,340-1,350 จุดในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ระหว่างรอความชัดเจนด้านปัจจัยการเมือง หุ้นกลุ่มที่เด่นใน Theme ปรับรูปแบบ Thai ESG คือ หุ้นที่ได้ ESG Rating และ ROE สูง เช่น ADVANC, BCP,  CPALL, KTB, OR, PR 9, PTT, SABINA, WHA เป็นต้น

Advertisment

บล.เอเซีย พลัส เลือก 13 หุ้น ESG ดีเลิศ

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด รายงานผ่านบทวิเคราะห์ว่า ในระยะสั้นมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน ที่ทางการประกาศออกมา น่าจะสร้าง Sentiment เชิงบวกให้กับ SET Index แต่ Impact ที่จะเกิดขึ้นจากเม็ดเงินลงทุนจริงน่าจะเริ่มเห็นได้ในช่วงครึ่งหลังของเดือนกรกฎาคม 67 (บนสมมุติฐานว่า ครม.เห็นชอบในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า) ในระยะนี้จึงประเมินว่า SET Index เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway up ในเชิงกลยุทธ์ นักลงทุนควรเตรียมพอร์ตการลงทุนเพื่อรอรับเม็ดเงินลงทุนที่จะเกิดขึ้นจาก Thai ESG Fund รอบใหม่ โดยฝ่ายวิจัยเลือกหุ้น ESG ดีเลิศ น่าลงทุน ดังนี้

    1. หุ้น ESG ดีเลิศ พื้นฐานเด่น ราคาย่อตัวลงมาลีก คือ SCC, CRC, PTTGC, BGRIM, BCP, AMATA, THCOM
    2. หุ้น ESG ดีเลิศ ได้ปัจจัยสนับสนุนจากไตรมาส 3 เปลี่ยนเข้าสู่ช่วงลานีญา STA, STGT, CKP
    3. หุ้น ESG ดีเลิศ ได้แรงหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ CPALL, KBANK, WHA

โกลเบล็ก คัดหุ้นเด่น ESG Rating เด่น AAA

การรีบาวนด์ระยะสั้น เนื่องจากมีมาตรการคุม Short Sell หุ้น กลุ่ม Non-SET100 ที่เริ่มใช้แล้ว ประกอบกับคาดการณ์จะมี Window Dressing ในสัปดาห์นี้ และการประกาศใช้มาตรการ Uptick Rule ในวันที่ 1 ก.ค. 67 ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนที่ผิดปกติของราคาหลักทรัพย์

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่มี ESG Rating เด่น (AAA) และเป็นหุ้นที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนมาตลอดระยะเวลา 8 ปีตั้งแต่ปี 2558-2566 ได้แก่ ADVANC, BANPU, CPF, PTTGC และ SCC