โบรกฯหั่นกําไร “หุ้นยานยนต์” สังเวยยอดผลิตรถปี’67 ต่ำสุดรอบ 14 ปี

Dow เปิดตัวนวัตกรรมเคลือบพื้นห้องโดยสารรถยนต์

บล.กรุงศรีจ่อลดประมาณการกําไรกลุ่ม “หุ้นยานยนต์” สังเวยยอดผลิตรถยนต์ปี 2567 ต่ำสุดในรอบ 14 ปี แนะ “ลดน้ำหนักการลงทุน” ชี้กําไรทุกบริษัทยังมีดาวน์ไซด์

วันที่ 27 มิถุนายน 2567 นายนฤดม มุจจลินทร์กูล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี กล่าวว่า ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศไทยช่วงเดือน พ.ค. 2567 ยังแย่ลงกว่าเดือนก่อน โดยลดลงถึง 16% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) เหลือ 126,000 คัน เนื่องจากยอดผลิตรถกระบะลดลงอย่างมีนัยสําคัญถึง 55% YOY และยอดผลิตรถเก๋ง (passenger car) ลดลง 14% YOY

นอกจากนี้ ยอดขายรถในประเทศลดลง 23% YOY เหลือ 50,000 คัน ซึ่งเป็นยอดขายเดือน พ.ค. ที่ต่ำที่สุดนับจากปี 2552 (ยกเว้นปีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด) ในขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3% เป็น 89,000 คัน ทั้งนี้ยอดขาย EV เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย เป็น 5,000 คัน (-8% YOY) คิดเป็น 10% ของยอดขายรถในประเทศ ซึ่งนับเป็นยอดขายและสัดส่วนยอดขาย EV ที่สูงที่สุดในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา

ด้านสงครามราคารถ EV ในช่วงที่ผ่านมา จะเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวไทยหันมาสนใจรถ EV มากขึ้น ซึ่งประมาณ 90% ยังต้องนําเข้ามาจากต่างประเทศ เชื่อว่าสงครามราคาจะปะทุขึ้นอีกระลอกในไตรมาส 4/2567 ช่วงที่มีการจัด Motor Expo ในเดือน ธ.ค. ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อยอดผลิตรถยนต์ในปีนี้ นอกจากนี้ สถาบันการเงินยังใช้แนวทางการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น จากความกังวลเกี่ยวกับระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงอีกด้วย

ในขณะที่ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมก็ปรับตัวลดลงติดต่อกันมา 10 เดือนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีโรงงานหลายแห่งที่กําหนดชั่วโมงการทํางานสั้นลง และมีการปลดคนงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของลูกจ้าง และการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค

Advertisment

ดังนั้นจึงปรับลดประมาณการยอดผลิตรถในปีนี้ลงอีก 6% จากเดิม 1.75 ล้านคัน เหลือ 1.65 ล้านคัน (-10% YOY) พร้อมทั้งปรับลดประมาณการยอดขายรถในประเทศปีนี้ลง 7% เหลือ 650,000 คัน (-16% YOY) และปรับลดประมาณการยอดส่งออกรถปีนี้ลง 1% เหลือ 1.09 ล้านคัน (-2% YOY)

ทั้งนี้ประเมินยอดผลิตรถยนต์ในปี 2567 อาจจะเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 14 ปี (ไม่รวมปีที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด) คาดว่ายอดผลิตรถรายเดือนอาจจะเริ่มดีขึ้นเล็กน้อยในช่วงไตรมาส 4/2567 ซึ่งหมายความว่าผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มยานยนต์จะแย่ลง YOY ไปอีก 2 ไตรมาส

โดยยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มยานยนต์ ลดน้ำหนักการลงทุน (Underweight) โดยมองว่าประมาณการกําไรของทุกบริษัทในกลุ่มยังมีดาวน์ไซด์อีก ซึ่งจะปรับลดประมาณการกําไรของบริษัทในกลุ่มลงในระยะข้างหน้า