ดีเอสไอ ประสาน ปปง. ปม ‘ชนินทร์’ คดีหุ้น STARK ซุกเงิน 8 พันล้าน

DSI STARK
ภาพจาก มติชน

ดีเอสไอ ประสาน ปปง. ตรวจสอบกรณีมีรายงานว่า ชนินทร์ ผู้ต้องหาคดีหุ้น STARK โยกเงินกว่า 8,000 ล้านบาทไปซุกซ่อนที่อังกฤษ พร้อมขยายผลความเกี่ยวเนื่องบุคคลรับโอนเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาคดี STARK

วันที่ 24 มิถุนายน 2567 มติชน รายงานว่า ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผอ.กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (23 มิถุนายน) พนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำนายชนินทร์ 2 ชั่วโมง ส่วนประเด็นที่ใช้ในการสอบปากคำส่วนใหญ่เป็นไปตามที่สำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เคยกล่าวโทษบุคคลทั้ง 10 ราย ซึ่งมีทั้งบุคคลและนิติบุคคล

พ.ต.ท.จักรกฤษณ์กล่าวต่อว่า ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ว่าบุคคลทั้งหมดได้ร่วมกันกระทำ หรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จ ทำบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง เป็นต้น ดังนั้น ก.ล.ต.กล่าวโทษอย่างไร ดีเอสไอก็ใช้ในการแจ้งข้อกล่าวหาตามพฤติการณ์นั้น ๆ

แต่โดยรวมแล้วจะอยู่ในมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯ ข้อหายักยอกทรัพย์และข้อหาฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งนายชนินทร์ก็ได้มีการแก้ข้อกล่าวหาด้วยวาจา และนำเอกสารประกอบแสดงชี้แจงในบางประเด็น

ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวทางทนายความของผู้ต้องหาเคยมีการมอบให้พนักงานสอบสวนมาก่อนแล้ว ในช่วงที่ตัวผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในราชอาณาจักร โดยเป็นการยื่นเอกสารผ่านทนายความ เราจึงรับฟังแต่ยังไม่นำใส่สำนวน ทั้งนี้ ในส่วนประเด็นใดที่นายชนินทร์ไม่ประสงค์แก้ข้อกล่าวหา ก็ได้แจ้งว่าจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น อาทิ ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหารายอื่น ๆ

Advertisment

เมื่อถามว่านายชนินทร์ได้มีการให้ปากคำเกี่ยวกับบุคลากรรายอื่น ๆ ภายในโครงสร้างกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท สตาร์ค หรือบรรดาลูกน้องบ้างหรือไม่ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ กล่าวว่าผู้ต้องหายังไม่ได้มีการกล่าวถึงกรรมการบริษัทมากนัก แต่ให้การเพียงแค่ว่าตนเองเป็นผู้บริหารจริง แต่ไม่ใช่ผู้บริหารสูงสุดขององค์กร เพราะตนเองและนายวนรัชต์ก็มีสถานะเป็นกรรมการบริษัท ถือว่ามีอำนาจเท่ากัน

เมื่อถามถึงกรณีที่ทนายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความของนายชนินทร์ ระบุว่าการสั่งฟ้องที่เกิดขึ้นกับลูกความตนเองยังไม่เป็นธรรม เพราะยังมีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องเส้นทางการเงิน และการบริหารจัดการในบริษัท สตาร์ค แต่ไม่ถูกสั่งฟ้องนั้น ใช่กรณีของนายชินวัฒน์ อัศวโภคี หรือไม่ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะพยานหลักฐานไปไม่ถึง

พ.ต.ท.จักรกฤษณ์กล่าวว่า ทนายความไม่ได้มีการระบุชื่อออกมาว่าหมายถึงใคร แต่ยืนยันว่าในชั้นการสอบสวนของดีเอสไอ เราได้ดำเนินการเต็มที่แล้ว ทั้งการรวบรวมพยานหลักฐาน พยานเอกสาร และการสอบปากคำพยานต่าง ๆ ส่วนกรณีที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องก็ถือเป็นดุลพินิจของอัยการ

เมื่อถามถึงกรณีที่ดีเอสไอจะดำเนินการขยายผลไปยังเรื่องการฟอกเงินของบรรดาผู้ต้องหาในคดีหุ้นสตาร์คนั้น พ.ต.ท.จักรกฤษณ์กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนได้มีการรับเป็นอีกหนึ่งคดีพิเศษ โดยเป็นการสืบสวนสอบสวนเรื่องฟอกเงินทางคดีอาญา จะเป็นการขยายผลไปในเรื่องความเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพัน ว่าบุคคลใดมีการรับโอนเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาคดีสตาร์ค

Advertisment

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดีนี้ได้มีการโอนเงินหรือผ่องถ่ายไปที่ใคร โดยที่บุคคลนั้นยังไม่ถูกดีเอสไอดำเนินคดีหรือไม่ หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกดำเนินคดีข้อหาฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และเมื่อเสร็จสิ้นก็จะดำเนินการส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการคดีพิเศษ

ส่วนกลุ่มเป้าหมายกลุ่มแรกที่ดีเอสไอเล็งเห็นว่าอาจมีการข้องเกี่ยวในเรื่องเงินที่มาจากการกระทำความผิดในคดีหุ้นสตาร์คนั้น เราจะไปดูในส่วนของบุคคลใกล้ชิด มีความสนิทสนมกับบรรดาผู้ต้องหาทั้ง 11 ราย เพื่อดูว่าแต่ละรายได้มีการจำหน่าย จ่ายโอน ทรัพย์สิน หรือผ่องถ่ายเงินไปยังทางใดหรือไม่

พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ยังกล่าวว่า สำนวนการฟอกเงินคดีใหม่นี้จะไม่ถูกส่งไปยัง ปปง. เนื่องจากคดีการฟอกเงินจะมีอยู่ด้วยกันสองส่วนคือ 1.ส่วนแรก ปปง.จะดำเนินการในเรื่องของการยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดี โดยการยึดทรัพย์ของ ปปง. เพื่อสำหรับศาลแพ่งมีคำสั่งเฉลี่ยคืนผู้เสียหายในคดี

และ 2.ส่วนของดีเอสไอ จะดำเนินการเฉพาะในส่วนของบุคคลที่รับเงินโอนเงินกับกลุ่มผู้ต้องหา ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรืออ้อมกี่ทอดก็ตาม เนื่องจากไม่ได้มีหนี้สินเกี่ยวพันกันจริง แต่มีเจตนาการฟอกเงินที่ได้จากการกระทำความผิด ซึ่งจะเป็นโทษคดีอาญา มีอัตราโทษจำคุก จะไม่เกี่ยวกับทาง ปปง. ที่ทำในเรื่องคดีแพ่ง

พ.ต.ท.จักรกฤษณ์กล่าวต่อว่า ในกรณีที่มีรายงานว่านายชนินทร์ได้มีการโยกเงินกว่า 8,000 ล้านบาทไปซุกซ่อนอยู่ที่อังกฤษนั้น ในเรื่องดังกล่าวดีเอสไออยู่ระหว่างการตรวจสอบและจะประสานข้อมูลกับสำนักงาน ปปง. พร้อมย้ำชัดว่า ปปง. ทำคดีทางแพ่ง ส่วนดีเอสไอทำคดีทางอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. พนักงานสอบสวนเตรียมนำตัวนายชนินทร์ออกจากห้องคุมขังชั้น 6 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถนนรัชดาภิเษก ตามขั้นตอนต่อไป