หุ้นไทยวันนี้สัญญาณอ่อนแรง 1,300-1,330 จุด ชะลอลงทุนรอปัจจัยการเมือง

ตลาดหุ้น หุ้น

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินหุ้นไทยวันนี้อ่อนแรง ฟื้นตัวจำกัด แนวรับ 1,300 จุด แนวต้าน 1,330 จุด ดัชนีถูกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศที่เพิ่มขึ้น กดดันให้ SET ยัง Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค ต้นสัปดาห์หน้าวันที่ 18 มิ.ย. จับตาการเมืองมีหลายประเด็นที่ต้องติดตาม

วันที่ 14 มิถุนายน 2567 บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด รายงานว่า ประเมิน SET วันนี้ ยังอ่อนแรง และการฟื้นตัวถูกจำกัด โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,320 และ 1,330 จุด ตามลำดับ จากปัจจัยการเมืองกดดันดัชนี โดยต้นสัปดาห์หน้าวันที่ 18 มิ.ย. มีหลายประเด็นที่ต้องติดตาม รวมถึงทิศทาง fund flow ไหลออก ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,305 และ 1,300 จุด ตามลำดับ

ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบาง โดยได้รับแรงกดดันจากประเด็นความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะกดดันให้ SET ยัง Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของ กนง.ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% เช่นเดิม

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศคาดยังไร้สัญญาณบวกใหม่ในสัปดาห์นี้ โดยเงินเฟ้อ พ.ค. ของสหรัฐและจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด ส่วนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.50% แต่ปรับ dot plot ลดดอกเบี้ยในปีนี้เหลือเพียง 1 ครั้ง จากคาดการณ์เดิมที่ 3 ครั้ง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม

1.สหรัฐรายงานดัชนี PPI ทั่วไป พ.ค. +2.2% YOY และดัชนี PPI พื้นฐาน พ.ค. +2.3% YOY ต่ำกว่าตลาดคาด ส่วนตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ 2.42 แสนราย สูงสุดรอบ 10 เดือน และสูงกว่าคาด

Advertisment

2.OPEC คาดอุปสงค์น้ำมันจะพุ่งขึ้นที่ระดับ 116 ล้านบาร์เรล/วัน ภายในปี 2588 พร้อมกับตำหนิรายงานของ IEA ที่คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะถึงจุดสูงสุดภายในปี 2572

3.รัฐบาลจีนคาดหวัง EU จะทบทวนอัตราภาษีนำเข้า EV ของจีน และชะลอการดำเนินนโยบายปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ยุโรปจากการแข่งขัน

4.เกาหลีใต้ขยายเวลาการบังคับใช้คำสั่งห้ามขายชอร์ตออกไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2568 และวางแผนใช้บทลงโทษที่รุนแรงขึ้นกับ นักลงทุน ที่ขายชอร์ตหุ้นซึ่งถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ ทั้งการเพิ่มโทษทางการเงินและโทษจำคุก และมีโทษจำคุกตลอดชีวิต

5.ม.หอการค้าไทยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค. ปรับลงเป็น 60.5 ลดลงต่อเป็นเดือนที่ 3 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน กังวลการเมืองไม่นิ่ง ราคาพลังงานเพิ่มขึ้น พร้อมแนะนำรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายลงทุนเพื่อพยุง ศก. ฟื้นปลายปี พร้อมคงเป้า GDP ปีนี้ที่ 2.6%

Advertisment

6.ครม.เตรียมออกประกาศส่งเสริมลงทุนตามกฎหมาย EEC ภายใน มิ.ย. มีภาคเอกชนรอใช้สิทธิ 30 ราย วงเงินลงทุนรวม 2.1 แสนล้านบาท ใน 5 กลุ่ม เตรียมขยายเมืองใหม่อัจฉริยะ ตั้งนิคมอุตสาหกรรมสีเขียว 5 พันไร่

7.นายกฯ ระบุรัฐบาลเตรียมหาแนวทางอื่นช่วยเหลือ ประชาชน โดยการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงการกำหนดกรอบเงินเฟ้อใหม่ ซึ่งอาจจะสามารถทำให้ความยืดหยุ่นในแง่ของการลดดอกเบี้ย เป็นไปได้มากขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน

ตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศกดดันให้ SET ยัง Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศคาดยังไร้สัญญาณบวกใหม่ในสัปดาห์นี้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีม ดังนี้

1.หุ้นที่คาด 2Q67 กำไรจะเติบโตทั้ง YOY และ QOQ อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวชนะตลาดได้ YTD เลือก ICT (ADVANC) TOURISM (MINT) และ FOOD (TU BTG OSP)

2.หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากการเข้าสู่บรรยากาศแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2024) ในช่วงวันที่ 14 มิ.ย.-14 ก.ค. 67 เลือก ADVANC TRUE CPALL CPAXT BJC MINT TU

3.หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการผลิต (โดยเฉพาะจีน) และผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว เลือก KCE SCGP PTTGC

4.สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Bent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

หุ้น TOP PICKS วันนี้

BDMS 2Q67 คาดกำไรปกติโต YOY แต่จะลดลง QOQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรปกติโต 13% YOY สู่ 1.6 พันล้านบาท โดยการดำเนินงานและกำไรจะแข็งแกร่งขึ้นใน 2H67 ปัจจุบันซื้อขายที่ PER 67F ระดับ 27 เท่า ต่ำกว่าระดับ -2SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในตลาดภูมิภาคที่ 28 เท่า

BCP มองได้ประโยชน์จากราคาก๊าซในยุโรปที่ฟื้นตัว ค่าการกลั่นปรับตัวดีขึ้น จากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบินตามฤดูกาล ขณะที่มอง Downside ค่าการกลั่นระดับปัจจุบัน (2-3 ดอลลาร์/บาร์เรล) อยู่ในระดับต่ำ อีกทั้ง Valuation ไม่แพง PER 67F เพียง 3.5 เท่า คาด Div. Yield น่าสนใจที่ 7%