ยอดขายรถ พ.ค. 67 ร่วง 23.38% เหตุแบงก์เข้มอนุมัติสินเชื่อ กำลังซื้อหดตาม

รถ
ภาพจาก PIXABAY

ส.อ.ท. เผยยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน พ.ค. 2567 ได้แค่ 49,871 คัน แม้เพิ่มขึ้นจากเดือน เม.ย. 6.7% แต่ลดลงจากปีก่อนถึง 23.38% เหตุแบงก์เข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ เศรษฐกิจซึมลึก กำลังซื้อหด โรงงานแห่ลดเวลาทำงาน-เลิกจ้าง ทำยอดผลิตร่วงตามเหลือ 126,161 คัน ลดลง 16.19% ลุ้นครึ่งปีหลัง

วันที่ 25 มิถุนายน 2567 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เดือนพฤษภาคม 2567 มีจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ 126,161 คัน ลดลงจากปีก่อน 16.19% เพราะยอดขายในประเทศที่ลดลงจากเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตในอัตราต่ำ และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังไม่พร้อมเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ยอดผลิตรถกลับเพิ่มขึ้น 20.54% จากเดือนเมษายน 2567

หากรวม 5 เดือน มกราคม-พฤษภาคม 2567) จะมีการผลิตทั้งสิ้น 644,951 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.88%

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 49,871 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2567 ที่ 6.7% แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วถึง 23.38%

Advertisment

เหตุเพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ จากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวในอัตราต่ำ จากการล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ทำให้การลงทุนของภาครัฐลดลง ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงติดต่อกันมากกว่า 10 เดือน โรงงานหลายแห่งลดเวลาทำงานลง และมีการเลิกจ้างพนักงานหลายหมื่นคน ทำให้ขาดรายได้ ประชาชนจึงระมัดระวังการใช้จ่ายเพราะความไม่แน่นอนในเรื่องรายได้ รวมทั้งค่าอาหาร ค่าเดินทาง และพลังงานมีราคาสูงขึ้น

ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 และปี 2568 ที่กำลังพิจารณาในสภา แต่เศรษฐกิจจะขยายตัวถึง 3%หรือไม่ ยังน่ากังวล ถ้ายอดผลิตรถยนต์และขายรถยนต์ และขายอสังหาริมทรัพย์ยังติดลบ เพราะทั้ง 2 อุตสาหกรรมมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องและแรงงานมาก ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศมาก

ดังนั้น 5 เดือน (เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2567) จึงมียอดขายรถรวมทั้งหมดอยูที่ 260,365 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกัน 23.80%

ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนพฤษภาคม 2567 มีการจดทะเบียนใหม่มีจำนวน 8,166 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว 14.50% โดยรวม 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม 2567) มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 43,921 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 31.64%

Advertisment