พาณิชย์ นำผู้ส่งออกไทยเยือนจีน หาลู่ทางดันข้าวไทยเข้ากว่างโจว

รณรงค์ พูลพิพัฒน์

กรมการค้าต่างประเทศ นำคณะผู้ส่งออกข้าวไทยเยือนจีน พบปะหารือกับผู้นำเข้าข้าวและผู้ประกอบการค้าข้าวในจีน หวังกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า และแสดงศักยภาพของไทย และกระตุ้นการส่งออกข้าวไทยไปจีน

วันที่ 24 มิถุนายน 2567 นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตนนำคณะผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเดินทางไปเยือนเมืองกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 12-15 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลกวางตุ้ง และเป็นเมืองที่มีความสำคัญในด้านการค้าข้าว เนื่องจากข้าวไทยที่ส่งไปจีนกว่าร้อยละ 80 ผ่านด่านในมณฑลกวางตุ้งก่อนกระจายไปยังตลาดในจีน

อีกทั้งผู้นำเข้าข้าวส่วนใหญ่อยู่ในเมืองกว่างโจวด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า และแสดงศักยภาพของไทยในฐานะผู้ส่งออกข้าวที่สำคัญของโลก รวมทั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานข้าวไทยของผู้บริโภคข้าวในจีนและกระตุ้นการส่งออกข้าวไทยไปจีน

กรมได้พบหารือระหว่างคณะสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยกับผู้นำเข้าข้าวและผู้ประกอบการค้าข้าวรายสำคัญในจีนจำนวน 43 ราย โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นและมุมมองการค้าข้าวระหว่างกัน ซึ่งผู้นำเข้าข้าวจีนให้ความเห็นว่า

Advertisment

ปัจจุบันความต้องการบริโภคข้าวในจีนลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันไปบริโภคอาหารทางเลือกอื่น ประกอบกับรัฐบาลจีนได้ส่งเสริมให้มีการผลิตข้าวในประเทศเพิ่มขึ้น และยังมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวหอมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาข้าวของจีนโดยเฉพาะข้าวหอมถูกกว่าข้าวหอมมะลิไทย จึงทำให้จีนนำเข้าข้าวจากต่างประเทศรวมทั้งไทยลดลง

ทั้งนี้ ฝ่ายจีนจึงเสนอให้ฝ่ายไทยส่งเสริมประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยในจีนผ่านช่องทางยอดนิยมของกลุ่มคนวัยรุ่นจีนอย่าง TikTok หรือ WeChat Channel เพื่อสร้างการจดจำแก่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ว่าข้าวหอมมะลิไทยยังคงรสชาติและคุณภาพเหมือนที่ผ่านมา และเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคข้าวในจีนมาโดยตลอด

และในโอกาสนี้ กรมยังได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกว่างโจว จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทย (Thai Rice Roadshow) ซึ่งมีผู้นำเข้าข้าว ผู้ประกอบการค้าข้าว และ KOL/Influencer/Blogger อาหารของจีนสนใจเข้าร่วมงานดังกล่าวประมาณ 70 คน

โดยมีการจัดแสดงตัวอย่างข้าวไทย ควบคู่กับการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อข้าวหอมมะลิไทยแท้ ๆ ที่มาจากไทยในจีน การจัดให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ชิมข้าวหอมมะลิไทยและข้าวไรซ์เบอรี่ชิมคู่กับอาหารไทยอย่างแกงเขียวหวานและอาหารจีน เพื่อให้รับรู้และเข้าใจในรสชาติและความเป็นเอกลักษณ์ของข้าวหอมมะลิไทยและข้าวไรซ์เบอรี่ของไทย รวมทั้งสาธิตการตรวจสอบคุณภาพข้าวไทย ในฐานะผู้ส่งออกข้าวที่มีคุณภาพและมาตรฐานในระดับสากลเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก

Advertisment

นายรณรงค์กล่าวอีกว่า กรมยังได้นำคณะผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยไปพบหารือกับผู้บริหารและเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมธัญพืชของ Guangzhou Grain Group ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้รัฐบาลจีนที่ดำเนินธุรกิจการค้าและการผลิตสินค้าเกษตร โดยมีกลุ่มธุรกิจในเครือทั้งด้านการท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า และอาหารและเครื่องปรุง สำหรับสินค้าข้าวประกอบธุรกิจ

โดยบริษัท Guangzhou Lingnan Suiliang Grain Co.,Ltd. ซึ่งในนิคมอุตสาหกรรมมีคลังเก็บข้าวสาร โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยที่ควบคุมอุณหภูมิ 15-17°C และโรงงานแปรรูปข้าวสารและแป้งข้าวสาลี โดยบริษัท Guangzhou Lingnan จัดจำหน่ายสินค้าข้าวทั้งในรูปแบบค้าส่งและค้าปลีก ครองส่วนแบ่ง 1 ใน 3 ของตลาดข้าวในจีน

ทั้งนี้ ด้วยนโยบายการพึ่งพาตนเองของรัฐบาลจีน ที่เพิ่มผลผลิตภายในประเทศ และลดการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคข้าวในจีน ทำให้แนวโน้มการนำเข้าข้าวของจีนจากต่างประเทศรวมทั้งไทยลดลง

อย่างไรก็ดี ข้าวหอมมะลิไทยยังเป็นที่ชื่นชอบในด้านรสชาติ คุณภาพและมาตรฐานของผู้บริโภคข้าวในจีน รวมทั้งข้าวเหนียวไทยและข้าวสีอย่างข้าวไรซ์เบอรี่ ผู้บริโภคข้าวในจีนเริ่มนิยมมากขึ้น

ดังนั้น การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะช่วยรักษาตลาดข้าวไทยในจีนและกระตุ้นการส่งออกข้าวไทยไปจีนให้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง