พาณิชย์เบรกขึ้นราคาสินค้า-อาหารจานด่วน หลังค่าขนส่งพุ่ง หมดมาตรการตรึง LPG

วันที่ 21 มิถุนายน 2567 - 13:37 น.

กรมการค้าภายใน ยืนยันดูแลสินค้าทุกรายการ หลังภาคขนส่งขึ้นราคา 3-9% ย้ำขณะนี้ยังไม่มีการขึ้นราคาสินค้า พร้อมขอความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้า รวมไปถึงอาหารจานด่วน แม้มาตรการตรึงราคา LPG จะหมดสิ้นเดือนมิถุนายน 2567 นี้

วันที่ 21 มิถุนายน 2567 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาชิกผู้ประกอบการขนส่ง 12 สมาคม มีมติปรับขึ้นราคาขนส่ง 3-9% ต่อราคาน้ำมันดีเซล 1 บาทที่เกิน 30 บาทต่อลิตรในวันนี้ ว่ากรมได้มีการพูดคุยและหารือกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง และยังคงให้ความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้าอยู่ และพร้อมบริหารจัดการต้นทุนให้มากที่สุด สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือ การกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคให้กลับมา

ทั้งนี้ กรมให้ความสำคัญในการติดตามดูแลราคาสินค้า อุปโภค-บริโภคอย่างใกล้ชิด ทั้งสินค้าที่อยู่ในรายการสินค้าควบคุมและสินค้าที่ต้องติดตาม เช่น สินค้า 18 รายการ และขณะนี้สินค้าที่ขอปรับขึ้นราคาก่อนหน้า ยังไม่ได้มีการพิจารณาให้ขึ้นราคา โดยยังขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าอยู่ หรือหากมีผู้ประกอบการจะขอปรับขึ้นจากเหตุปัจจัยค่าขนส่ง ก็ยังต้องพิจารณาเป็นราคาสินค้า

“สินค้าแต่ละรายการมีต้นทุนค่าขนส่งไม่เท่ากัน ทั้งชนิดของรายการสินค้า ประเภทของผลิตภัณฑ์ด้วย ซึ่งจะต้องมีการพิจารณา คำนวณต้นทุนที่ไม่เหมือนกัน ต้องดูทั้งต้นทุนทางตรงและทางอ้อมด้วย ทั้งนี้ ยังต้องดูว่าตอนนี้มีการปรับขึ้นค่าขนส่งไปแล้วจริงไหม เท่าไร เราไม่เพิกเฉยดูแลทุกสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อค่าครองชีพ”

อย่างไรก็ดี ก็พร้อมจะดูแลติดตามราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด และให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ผู้ประกอบการอยู่ได้ ประชาชน ผู้บริโภคเองก็ต้องไม่ได้รับผลกระทบ เพราะนโยบายกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญในการดูแลทุกฝ่าย อีกทั้งปัจจัยนี้อยู่ในส่วนของต้นทุนพลังงานก็จำเป็นต้องดู กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลต่อไป

Advertisment

นายวัฒนศักย์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีมาตรการตรึงการจำหน่ายก๊าซหุงต้ม (LPG) ของภาครัฐที่จะสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2567 นี้ ปัจจุบันกรมยังขอความร่วมมือร้านอาหารในการตรึงราคาสินค้าจานด่วนอยู่ และขณะนี้ยังพบว่าต้นทุนวัตถุดิบในหลายรายการปรับลดราคาลง เนื่องจากตอนนี้อากาศดีขึ้น ฝนตกมากขึ้น ทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

สินค้าที่ปรับลดลงบางรายการทรง ตัวอย่างเช่น หมูเนื้อแดง ราคา 132 บาทต่อกิโลกรัม ไก่น่อง-สะโพก 52.502 บาทต่อกิโลกรัม ไก่เนื้อสะโพก 86.25 บาทต่อกิโลกรัม ไข่ไก่ เบอร์ 3 4.24 บาทต่อฟอง ผักคะน้า 33.80 บาทต่อกิโลกรัม กวางตุ้ง 30.50 บาทต่อกิโลกรัม ผักกาดขาว 34.50 บาทต่อกิโลกรัม ผักชี 121.50 บาทต่อกิโลกรัม พริกขี้หนูจินดา 81.30 บาทต่อกิโลกรัม และมะนาวเบอร์ 1-2 ราคา 3.58 บาทต่อลูก