จับตา “เอลนีโญ” สู่ “ลานีญา” ฝนตกหนัก-น้ำท่วม คาดมีผลต่อเงินเฟ้อไทย

สภาพอากาศ ฝนตกหนัก ฝนตก
Photo by ardi fitri on Unsplash

จับตาจาก “เอลนีโญ” สู่ “ลานีญา” ฝนตกหนัก-น้ำท่วม คาดมีผลต่อเงินเฟ้อไทย

สนค.เผยจับตากลางปี 2567 นี้ ไทยจะเข้าสู่สภาวะ “ลานีญา” ทำให้ฝนตกหนักมากกว่าปกติ และอาจเกิดน้ำท่วม เสี่ยงมีผลกระทบต่อการปลูกผักและผลไม้ ทำให้ผลผลิตเสียหาย และราคาอาจปรับตัวสูงขึ้น จนกระทบต่อเงินเฟ้อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องวางแผนรับมือให้ดี ส่วนพาณิชย์เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว

วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น สภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาน้ำเป็นสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าภาคการเกษตรไทย แต่ในช่วงกลางปีนี้มีแนวโน้มว่าอุณหภูมิความร้อนจะลดลงและเข้าสู่จุดเปลี่ยนผ่านฤดูกาล

โดยข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในสภาวะเอลนีโญกําลังอ่อน ซึ่งจะเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะเป็นกลางในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. 2567 และมีความน่าจะเป็นร้อยละ 60 ที่จะเข้าสู่สภาวะลานีญาในช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค. 2567

สำหรับลานีญาเป็นปรากฏการณ์ขั้วตรงข้ามกับเอลนีโญ เกิดจากกระแสลมที่พัดจากด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกมายังด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก มีความรุนแรงมากกว่าปกติ ทำให้กระแสน้ำอุ่นไหลมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ส่งผลให้ภูมิภาคดังกล่าวมีระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและอาจทำให้ฝนตกหนักมากกว่าปกติ

Advertisment

นายพูนพงษ์กล่าวว่า การเกิดลานีญาจะมีผลกระทบต่อสินค้าสินค้าเกษตร อาทิ ผักสด และผลไม้สด เนื่องจากเป็นสินค้าที่อ่อนไหวต่อสถานการณ์น้ำค่อนข้างมาก หากปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไปจะกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูก เป็นอุปสรรคต่อการเก็บเกี่ยว และเกิดความเสียหายต่อผลผลิต นำไปสู่การสูงขึ้นของระดับราคาสินค้าจากปัญหาภาวะอุปทานขาดแคลน เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง และยังจะส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ หากราคาปรับตัวสูงขึ้น เพราะผักและผลไม้มีสัดส่วนในตะกร้าเงินเฟ้อของไทยประมาณร้อยละ 5.83

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาอัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะกลุ่มผักและผลไม้เดือน ส.ค. ก.ย. และ ต.ค. ปี 2565 ที่ผ่านมา พบว่าสูงขึ้นร้อยละ 11.81, 12.43 และ 7.99 ตามลำดับ โดยสาเหตุสำคัญมาจากน้ำท่วมขังในพื้นที่ทำการเกษตร ทำให้มีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง และยังมีหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและทำให้ราคาอาหารสูงขึ้น เงินเฟ้อสูงขึ้น เช่น ฟิลิปปินส์เคยเจอน้ำท่วม สินค้าหมวดอาหาร เช่น ข้าว ผัก เพิ่มขึ้นร้อยละ 15-20 และออสเตรเลีย ซึ่งเผชิญกับวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ในหลายเมืองสำคัญ อาทิ ซิดนีย์ และเมลเบิร์น บางพื้นที่รุนแรงที่สุดในรอบ 70 ปี สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ทำการเกษตร ส่งผลให้ราคาสินค้าผักและผลไม้พุ่งสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 16

“สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนและความเสี่ยงที่จะเกิดปรากฏการณ์ลานีญา เป็นวัฏจักรตามธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และอาจส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อในหมวดสินค้าที่เกี่ยวข้อง ส่วนขนาดของผลกระทบคงต้องรอความชัดเจนของสถานการณ์อีกครั้ง หากปีนี้ความรุนแรงของปรากฏการณ์ลานีญาอยู่ในระดับต่ำ อาจทำให้มีปริมาณน้ำที่เพียงพอและเหมาะสมต่อการเพาะปลูก มีผลผลิตเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อภาคการเกษตร แต่หากปรากฏการณ์ลานีญามีความรุนแรงจนถึงขั้นเกิดอุทกภัย อาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร และเกิดปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง

Advertisment

นอกจากผักและผลไม้ อาจส่งผลทางอ้อมไปยังกลุ่มสินค้าอื่น ๆ ที่ใช้ผักและผลไม้เป็นหนึ่งในวัตถุดิบ อาทิ อาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง และอาหาร โทร.สั่ง ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องคอยติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด วางแผนบริหารจัดการน้ำและช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวผลผลิต พัฒนาพื้นที่เพาะปลูก รวมทั้งส่งเสริมการบริหารจัดการสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ส่วนกระทรวงพาณิชย์จะเตรียมรับมือและวางแผนด้านมาตรการช่วยเหลือ โดยจะพิจารณาถึงผลกระทบของมาตรการต่อทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคอย่างรอบด้าน ซึ่งคาดว่าการวางแผนรับมือที่ดีจะช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้” นายพูนพงษ์กล่าว