สถาบันศิลปะชิคาโกแจ้งส่งคืนโบราณวัตถุอายุ 900 ปีจากปราสาทหินพนมรุ้ง กลับไทย

เสาติดผนังแสดงภาพพระกฤษณะยกเขาโควรรธนะ ปราสาทพนมรุ้ง

สถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโก สหรัฐอเมริกา แจ้งส่งคืนโบราณวัตถุ “เสาติดผนังสลักรูปพระกฤษณะ” อายุ 900 ปี จากปราสาทพนมรุ้ง กลับไทย

วันที่ 19 มิถุนายน 2567 กรมศิลปากร รายงานว่า สถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโก (The Art Institute of Chicago) สหรัฐอเมริกา แจ้งความประสงค์ส่งคืนโบราณวัตถุให้กับกรมศิลปากรจำนวน 1 รายการ ได้แก่ ชิ้นส่วนเสาติดผนัง สลักจากหินทรายรูปพระกฤษณะยกเขาโควรรธนะ (Fragment of a Pilaster with Krishna lifting Mount Govardhana) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสถาปัตยกรรมประเภทปราสาทหิน อายุราวพุทธศตวรรษที่ 17 หรือประมาณ 900 ปี

ทั้งนี้ กรมศิลปากรได้มอบหมายให้สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติตรวจสอบข้อมูลโบราณวัตถุดังกล่าว พบว่าเป็นชิ้นส่วนเสาติดผนังด้านซ้ายของกรอบประตูมณฑปด้านทิศตะวันออก ของปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งคาดว่าถูกลักลอบนำออกไปจากประเทศไทยราวปี พ.ศ. 2508 ก่อนที่กรมศิลปากรจะเริ่มโครงการบูรณะปราสาทพนมรุ้ง

ก่อนหน้านี้ “ดร. Nicolas Revire” ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและโบราณคดีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโก ได้เดินทางไปที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง และพบหลักฐานที่เชื่อมั่นได้ว่าเสาติดผนังรูปพระกฤษณะยกเขาโควรรธนะที่สถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโกได้รับบริจาคเมื่อปี พ.ศ. 2509 นั้นมาจากปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์

สถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโก จึงมีความห่วงกังวลว่าโบราณวัตถุดังกล่าวอาจมีที่มาที่ขัดต่อกฎหมาย จึงมีความประสงค์ส่งมอบคืนให้แก่รัฐบาลไทย โดยสถานะปัจจุบัน คณะกรรมการบริหารทรัพย์สิน (Board of Trustees) ของสถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโกได้อนุมัติให้ถอดโบราณวัตถุรายการนี้ออกจากทะเบียนของสถาบันแล้วตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา และได้ประสานกรมศิลปากรถึงขั้นตอนการเตรียมการส่งคืนสู่ประเทศไทย

Advertisment

ทั้งนี้ ได้รายงานเรื่องดังกล่าวต่อ “นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อทราบในเบื้องต้นด้วยแล้ว

โดย รมว.สุดาวรรณมีความเห็นว่า แม้โบราณวัตถุดังกล่าวจะไม่ได้อยู่ในรายการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศ เป็นการเสนอคืนของสถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโก ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ประเทศไทยจะได้รับโบราณวัตถุสำคัญกลับคืนมา ซึ่งสามารถนำมาเติมเต็มชิ้นส่วนที่ขาดหายไปของโบราณสถานให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

ในนามของกระทรวงวัฒนธรรม ประเทศไทย จึงขอแสดงความชื่นชมและขอบคุณสถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโกเป็นอย่างยิ่ง ที่ตระหนักถึงจรรยาบรรณในการครอบครองโบราณวัตถุที่มีที่มาถูกต้อง และความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะให้ความสำคัญในการต่อต้านการค้าโบราณวัตถุที่ผิดกฎหมาย

กรมศิลปากรระบุอีกว่า การส่งคืนโบราณวัตถุครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดความร่วมมือของทั้งสองประเทศ และหวังว่าสิ่งนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความร่วมมือที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และความร่วมมือทางวัฒนธรรมร่วมกันต่อไป

Advertisment

ด้าน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า กระทรวงการต่างประเทศมีความยินดีอย่างยิ่งต่อเรื่องดังกล่าว โดยตั้งแต่ได้รับการทาบทามจากสถาบันศิลปะฯ ผ่านมาทางสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก สถานกงสุลใหญ่และกรมสารนิเทศได้ร่วมกันสนับสนุนการจัดส่งข้อมูลและอำนวยความสะดวกในการติดต่อประสานงานระหว่างสถาบันศิลปะฯ กับกรมศิลปากรอย่างใกล้ชิด และกระทรวงการต่างประเทศพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินการขั้นต่อ ๆ ไป เพื่อให้สามารถนำโบราณวัตถุคืนสู่ประเทศไทยได้โดยเร็วที่สุด

การดำเนินการข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจในการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในหลายประเทศได้ทำงานอย่างบูรณาการร่วมกับกรมศิลปากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ที่ผ่านมาสามารถนำโบราณวัตถุของไทยหลายรายการกลับคืนสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ (2564) ทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว (2564) ครอบพระเศียรพระพุทธรูปทองคำศิลปะล้านนา (2564) พระพุทธรูปไม้แกะสลักโบราณ จำนวน 13 องค์ (2565) โบราณวัตถุบ้านเชียง (2566) และล่าสุด ประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะ หรือ “Golden Boy” และ ประติมากรรมสำริดสตรีพนมมือ (2567) เป็นต้น

สำหรับเสาติดผนังแสดงภาพพระกฤษณะยกเขาโควรรธนะ ทำจากหินทรายขนาดสูง 95 ซม. กว้าง 30.4 ซม. หนา 19.3 ซม. และมีสถานที่เก็บรักษา ณ สถาบันศิลปะชิคาโก (The Art Institute of Chicago) สหรัฐอเมริกา เป็นรูปแบบศิลปะอายุสมัยพุทธศตวรรษที่ 17 หรือประมาณ 900 ปี