กรุงศรีฯ คาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 36.40-37.10 บาท ลุ้นข้อมูลจ้างงานสหรัฐ

ดอกเบี้ยเงินฝาก

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา คาดเงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.40-37.10 บาทต่อดอลลาร์ ระบุตลาดจับตาตัวเลขการจ้างงานเดือน มิ.ย.ของสหรัฐ-ความเห็นประธานเฟดในงาน ECB Forum ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามข้อมูลเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ซึ่งคาดว่าจะชะลอลง

วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.40-37.10 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 36.78 บาทต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 36.56-36.99 โดยเงินดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินยูโรในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในช่วงแรกดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.

ขณะที่เงินเยนร่วงลงสู่จุดต่ำสุดในรอบเกือบ 38 ปี และยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าทางการญี่ปุ่นเข้ามาแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนรอบใหม่ หลังจากทางการญี่ปุ่นเคยใช้เงินกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ในพยุงค่าเงินเยนเมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย. และต้นเดือน พ.ค. ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐและความเห็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นไปอย่างผสมผสาน

ทั้งนี้ จีดีพีไตรมาสแรกของสหรัฐขยายตัว 1.4% โดยปรับขึ้นจาก 1.3% ในการรายงานครั้งก่อน แต่ชะลอตัวลงจาก 3.4% ในไตรมาส 4/66 ส่วนดัชนีเงินเฟ้อ PCE พื้นฐานเดือน พ.ค. ชะลอลงตามที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.6% ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 8,770 ล้านบาท และ 6,741 ล้านบาทตามลำดับ อนึ่ง ในช่วงครึ่งปีแรกและไตรมาสที่ 2 เงินบาทอ่อนค่าลง 7.1% และ 1.0% ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่าตลาดจะให้ความสนใจกับความเห็นประธานเฟดในงาน ECB Forum ดัชนี ISM ภาคการผลิตและการบริการ รายงานประชุมเฟด รวมถึงตัวเลขการจ้างงานเดือน มิ.ย.ของสหรัฐ ทั้งนี้ นอกจากนี้ ตลาดจะให้ความสนใจกับการเมืองยุโรปต่อไป โดยอังกฤษจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 4 ก.ค. ขณะที่ในฝรั่งเศสพรรคฝั่งชาตินิยมขวาจัดชนะเลือกตั้งรอบแรก

Advertisment

สำหรับปัจจัยในประเทศ นักลงทุนจะติดตามเงินเฟ้อเดือน มิ.ย.ของไทย ซึ่งคาดว่าจะชะลอลงเล็กน้อยจากที่เพิ่มขึ้นในเดือน พ.ค.

ขณะที่ ธปท.ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อจะลงมาต่ำกว่ากรอบเป้าหมายในไตรมาส 3 ก่อนที่จะกลับเข้ากรอบอีกครั้งตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ ธปท.ระบุว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อในปัจจุบันที่ 1-3% ทำหน้าที่ได้ดี

ขณะที่นโยบายการเงินไม่ได้ทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ แต่เป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้างและสถานการณ์เศรษฐกิจต่าง ๆ โดยการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อจะต้องให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ธปท.ยังเน้นย้ำว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เป็นกลาง แต่พร้อมจะปรับเปลี่ยนหากมีความจำเป็นตามปัจจัยที่จะเข้ามากระทบพื้นฐานเศรษฐกิจ