กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเร่งประสาน อสม.ร่วมรณรงค์แนวทาง “รับ รู้ ปรับ ใช้” สร้างความเข้าใจในการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างเหมาะสม
วันที่ 19 มิถุนายน 2565 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เร่งประสานเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ( อสม.) ทั่วไทย ร่วมลงพื้นที่ชุมชนรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้กัญชาทางการแพทย์ตามหลัก “รับ รู้ ปรับ ใช้” ในการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง เหมาะสม เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กรม สบส.ได้ขอความร่วมมือจากพี่น้อง อสม. 1.05 ล้านคน ในการทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงในการรณรงค์ และถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับพืชกัญชา ทั้งคุณประโยชน์ และผลกระทบที่อาจจะเกิดจากการเสพกัญชาเกินขนาด รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ตามหลัก “รับ รู้ ปรับ ใช้” ได้แก่ 1.รับ : รับข้อมูล ข่าวสารด้านกัญชาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ 2.รู้ : รู้ข้อมูลเกี่ยวกับกัญชาที่ถูกต้อง 3.ปรับ : ปรับการใช้กัญชาให้เหมาะสมกับผู้ป่วย และ 4.ใช้ : ใช้กัญชาเพื่อสุขภาพและรักษาโรค เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการใช้กัญชาทางการแพทย์ในชุมชนอย่างถูกต้องเหมาะสม แทนที่จะใช้เพื่อสันทนาการ
“ขอขอบคุณพี่น้อง อสม.ที่ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานระบบสาธารณสุขไทยมาโดยตลอด ทั้งในบทบาทของนักรบด่านหน้าที่ต่อสู้กับโรคระบาดอย่างโรคโควิด 19 และบทบาทแกนนำสุขภาพของชุมชน โดยในวันนี้ที่มีการปลดล็อกกัญชา กรม สบส.ก็หวังว่าพี่น้อง อสม.ทุกท่านจะร่วมเข้ามามีบทบาทในการเป็นกระบอกเสียง และร่วมรณรงค์ เผยแพร่องค์ความรู้ และสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องในชุมชน ในการนำพืชกัญชาไปใช้อย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการแพทย์ และเศรษฐกิจของประชาชนได้อย่างยั่งยืน” นายแพทย์ธเรศ กล่าว
ด้านนพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า แม้พืชกัญชาจะมีสรรพคุณทางการแพทย์ในการบรรเทาอาการได้หลากหลายโรค และประโยชน์ที่เกี่ยวกับสุขภาพด้านอื่นๆก็ตาม แต่ยังมีกลุ่มผู้ที่ควรระมัดระวังในการใช้กัญชา อาทิ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ผู้ที่มีอาการตับและไตบกพร่อง ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด และผู้ที่ใช้ยาที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เป็นต้น
ดังนั้น ขอให้ประชาชนศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน โดยอาจจะสอบถามข้อมูลในการใช้กัญชาทางการแพทย์จากหน่วยงานสาธารณสุข หรือบุคลากรสาธารณสุขอย่าง อสม.ที่อยู่ใกล้บ้าน และหากต้องการจะปลูกหรือครอบครองกัญชาก็ขอให้สอบถามข้อมูลจากสายด่วน กัญชง กัญชา 1556 กด 3 เพื่อให้การใช้หรือครอบครองพืชกัญชาเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักการแพทย์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง