กัญชา: สบส. ส่งทัพ อสม. ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจการใช้

ภาพจาก Pixabay

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเร่งประสาน อสม.ร่วมรณรงค์แนวทาง “รับ รู้ ปรับ ใช้” สร้างความเข้าใจในการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างเหมาะสม

วันที่ 19 มิถุนายน 2565 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เร่งประสานเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ( อสม.) ทั่วไทย ร่วมลงพื้นที่ชุมชนรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้กัญชาทางการแพทย์ตามหลัก “รับ รู้ ปรับ ใช้” ในการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง เหมาะสม เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กรม สบส.ได้ขอความร่วมมือจากพี่น้อง อสม. 1.05 ล้านคน ในการทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงในการรณรงค์ และถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับพืชกัญชา ทั้งคุณประโยชน์ และผลกระทบที่อาจจะเกิดจากการเสพกัญชาเกินขนาด รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ตามหลัก “รับ รู้ ปรับ ใช้” ได้แก่ 1.รับ : รับข้อมูล ข่าวสารด้านกัญชาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ 2.รู้ : รู้ข้อมูลเกี่ยวกับกัญชาที่ถูกต้อง 3.ปรับ : ปรับการใช้กัญชาให้เหมาะสมกับผู้ป่วย และ 4.ใช้ : ใช้กัญชาเพื่อสุขภาพและรักษาโรค เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการใช้กัญชาทางการแพทย์ในชุมชนอย่างถูกต้องเหมาะสม แทนที่จะใช้เพื่อสันทนาการ

“ขอขอบคุณพี่น้อง อสม.ที่ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานระบบสาธารณสุขไทยมาโดยตลอด ทั้งในบทบาทของนักรบด่านหน้าที่ต่อสู้กับโรคระบาดอย่างโรคโควิด 19 และบทบาทแกนนำสุขภาพของชุมชน โดยในวันนี้ที่มีการปลดล็อกกัญชา กรม สบส.ก็หวังว่าพี่น้อง อสม.ทุกท่านจะร่วมเข้ามามีบทบาทในการเป็นกระบอกเสียง และร่วมรณรงค์ เผยแพร่องค์ความรู้ และสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องในชุมชน ในการนำพืชกัญชาไปใช้อย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการแพทย์ และเศรษฐกิจของประชาชนได้อย่างยั่งยืน” นายแพทย์ธเรศ กล่าว

ด้านนพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า แม้พืชกัญชาจะมีสรรพคุณทางการแพทย์ในการบรรเทาอาการได้หลากหลายโรค และประโยชน์ที่เกี่ยวกับสุขภาพด้านอื่นๆก็ตาม แต่ยังมีกลุ่มผู้ที่ควรระมัดระวังในการใช้กัญชา อาทิ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ผู้ที่มีอาการตับและไตบกพร่อง ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด และผู้ที่ใช้ยาที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เป็นต้น

ดังนั้น ขอให้ประชาชนศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน โดยอาจจะสอบถามข้อมูลในการใช้กัญชาทางการแพทย์จากหน่วยงานสาธารณสุข หรือบุคลากรสาธารณสุขอย่าง อสม.ที่อยู่ใกล้บ้าน และหากต้องการจะปลูกหรือครอบครองกัญชาก็ขอให้สอบถามข้อมูลจากสายด่วน กัญชง กัญชา 1556 กด 3 เพื่อให้การใช้หรือครอบครองพืชกัญชาเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักการแพทย์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง