ซัมซุง ปรับโหมดรับมือวิกฤต สั่งผู้บริหารระดับสูงทำงาน 6 วัน/สัปดาห์

samsung-ซัมซุง
REUTERS/Kim Hong-Ji

ยักษ์ “ซัมซุง” เข้าสู่โหมดฉุกเฉิน ผู้บริหารระดับสูงต้องทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ หลังธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ แหล่งรายได้หลักขาดทุน 4 แสนล้านบาท พร้อมปรับแผนธุรกิจรับมือความเสี่ยง “เงินวอนอ่อนค่า-ภูมิรัฐศาสตร์ตึงเครียด”

วันที่ 22 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยักษ์เทคสัญชาติเกาหลีใต้ “ซัมซุง” (Samsung) ปรับการทำงานเข้าสู่โหมด “ฉุกเฉิน” (Emergency Mode) โดยผู้บริหารทั้งหมดจะต้องทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ สับเปลี่ยนมาทำงานในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์นอกเหนือจากวันทำงานตามปกติ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นต้นไป

รายงานจากสำนักข่าว The Korea Economic Daily เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ Samsung ต้องปรับการทำงานเข้าสู่โหมดฉุกเฉิน มาจากการที่บริษัทต้องรับมือกับการอ่อนค่าอย่างรวดเร็วของสกุลเงินวอน ราคาน้ำมันและต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และสงคราม ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความไม่แน่นอนทางธุรกิจทั้งสิ้น

อีกทั้งในปี 2566 ผลประกอบการของธุรกิจหลักบางกลุ่มยังอยู่ในจุดที่ไม่น่าพึงพอใจ โดยเฉพาะธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ ที่เป็นธุรกิจหลักมีสัดส่วนรายได้ราว 80% ของบริษัท กลับขาดทุนถึง 15 ล้านล้านวอน (4 แสนล้านบาท) นั่นทำให้ Samsung ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ และต้องปรับแผนการดำเนินธุรกิจอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงของ Samsung Display, Samsung Electro-Mechanics และ Samsung SDS เริ่มทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้บริหารในกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ เช่น Samsung Life Insurance และบริการทางการเงินอื่น ๆ จะเข้าร่วมในเร็ว ๆ นี้ ส่วนพนักงานระดับปฏิบัติการทั่วไปยังคงทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ตามเดิม

รายงานระบุด้วยว่า ผู้บริหารในกลุ่มธุรกิจ Samsung C&T, Samsung Heavy Industries และ Samsung E&A ได้ทำงานสมัครใจ 6 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม Samsung ต้องเผชิญกับความท้าทายในการแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่น ๆ เช่น SK Hynix ที่กำลังครองตลาดหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูง (HBM) ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรม AI อย่างแพร่หลาย และ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ผู้นำตลาดรายปัจจุบัน เป็นต้น